กระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย เปิดเผยว่า การที่กลุ่มสหภาพยุโรป(อียู)ตัดสินใจคว่ำบาตรน้ำมันดิบบางส่วนจากรัสเซียเป็นเสมือนมาตรการทำร้ายตนเอง จะทำให้เศรษฐกิจของกลุ่มอียูได้รับความเสียหายทั้งกลุ่ม ระบุว่า มาตรการดังกล่าวจะทำให้ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตลาดพลังงานของโลกจะไม่มีเสถียรภาพ กระทบซัพพลายเชนทั่วโลก
รัฐบาลรัสเซียพูดเป็นนัยระหว่าการแถลงข่าวในวันนี้ว่า รัสเซียจะไม่ขายน้ำมันดิบแบบขาดทุน แม้ความต้องการซื้อพลังงานจากรัสเซียอาจจะลดลงในบางภูมิภาคของโลกเช่น ในยุโรป แต่ความต้องการอาจจะสูงขึ้นในภูมิภาคอื่นๆของโลก ซึ่งรัฐบาลรัสเซียจะปรับเปลี่ยนนโยบายการค้าพลังงาน โดยให้ความสำคัญกับตลาดที่มีความต้องการซื้อพลังงานรัสเซียมากกว่ายุโรป ที่ผ่านมา อินเดียในฐานะประเทศผู้ซื้อน้ำมันดิบรายใหญ่อันดับที่ 3 ของโลก ซื้อน้ำมันดิบจากรัสเซียมากกว่าสองเท่าในปีที่แล้ว และซื้อในราคาถูกกว่าท้องตลาดด้วย
ก่อนหน้านี้ กลุ่มอียูมีมติเมื่อวันจันทร์ ให้สมาชิกอียู 27 ประเทศลดการนำเข้ามันดิบรัสเซียร้อยละ 90 ภายในปลายปีนี้ เป็นหนึ่งในมาตรการคว่ำบาตรครั้งที่ 6 เพื่อลงโทษรัสเซียหลังรุกรานยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ โดยนายชาร์ลส์ มิเชล ประธานคณะมนตรียุโรป ระบุว่า การห้ามสมาชิกอียูนำเข้าน้ำมันดิบจากรัสเซียจะกระทบการระดมเงินทุนจำนวนมากของรัสเซียสำหรับนำมาใช้จ่ายในการปฏิบัติภารกิจทางทหารในยูเครน อีกทั้งจะเพิ่มแรงกดดันให้รัสเซียยอมเข้าสู่การเจรจาทางการทูตกับกลุ่มอียู เพื่อหารือเรื่องการยุติการรุกรานยูเครนในที่สุด
#รัสเซีย
#อียู
#มาตรการคว่ำบาตร