'ชัชชาติ' เดินหน้าต่อรอง ปัญหารถไฟฟ้าสายสีเขียว คาด 1 เดือนได้ข้อสรุป

02 มิถุนายน 2565, 17:19น.


          การแก้ไขปัญหารถไฟฟ้าสายสีเขียว นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับบริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด(เคที) ว่า วันนี้ได้ประชุมร่วมกับผู้บริหารบริษัทกรุงเทพธนาคม ในประเด็นเร่งด่วน 2 เรื่อง เรื่องแรกเป็นเรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียว ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน อาทิ บริษัทกรุงเทพธนาคม สำนักการจราจรและขนส่ง รวมถึงสภากรุงเทพมหานคร เบื้องต้นบริษัทกรุงเทพธนาคมได้ให้ข้อมูลในส่วนของบริษัทฯเกี่ยวกับสัญญาจ้างการเดินรถ  เหตุผลในการจ้าง ระยะเวลาการก่อหนี้ ซึ่งต้องมีการศึกษาข้อมูลต่อไป  สำหรับสัญญาการจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ที่จะสิ้นสุดในปี2585 ซึ่งก่อให้เกิดภาระหนี้สิน จะต้องนำข้อมูลมาตรวจสอบว่าภาระหนี้สินเกิดจากอะไร และสัญญาได้รับการอนุมัติจากสภากทม.หรือไม่ ซึ่งมีข้อผูกพันหลายอย่างจึงต้องพิจารณาในรายละเอียดอีกครั้ง



           ที่ผ่านมาไม่มีการผ่าน พ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน ไม่มีการแข่งขัน จึงไม่รู้ว่าราคาที่สมควรคือเท่าไหร่ แต่น่าจะมีจุดที่สามารถต่อรองราคาให้ถูกลงมาได้ คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 1 เดือนหลังจากวันนี้ได้เห็นสัญญา



           สำหรับภาระหนี้สินที่คงค้างประมาณ 4 หมื่นล้านบาท บริษัทกรุงเทพธนาคมได้ทยอยชำระอย่างต่อเนื่องทุกเดือน ทั้งนี้ไม่อยากให้เอาภาระหนี้สิน มาเป็นตัวเร่งรัดการตัดสินใจระยะยาว แม้ว่าดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้นทุกวัน หากมีความจำเป็นต้องชำระหนี้ กทม.ยังมีข้อบัญญัติในการกู้เงินที่จะนำมาชำระหนี้สินได้ โดยเป็นข้อบัญญัติที่ต้องผ่านสภากทม.ก่อน และเป็นการกู้เงินจากรัฐจะได้ดอกเบี้ยที่ถูกลงกว่าเอกชนกู้ ซึ่งต้องศึกษารายละเอียดให้รอบคอบว่าทางใดดีที่สุด อีกหนึ่งแนวทางที่จะลดภาระหนี้สิน คืออาจจะเริ่มเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายที่ 2 เนื่องจากปัจจุบันการให้บริการฟรี ทั้งนี้ต้องศึกษารายละเอียดและดูความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นประชาชนและเอกชนด้วย       



            ผู้ว่าฯกทม. ระบุว่า ใจจริงอยากคืนหนี้โครงสร้างพื้นฐานที่โยนมาให้ กทม. แต่ต้องคุยกับฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ต้องดูความยุติธรรมทุกฝ่ายด้วยมองว่า เรื่องหนี้เป็นตัวเร่งรัดในหลายๆ อย่าง อยากจะเคลียร์เรื่องหนี้ก่อน เช่น หนี้จากโครงสร้างโยธา หนี้ระบบที่เคทีจ้างเอกชน และหนี้การเดินรถ หากยกหนี้ก้อนแรกไปได้ ก็อาจจะทำให้ปัญหาต่างๆ คลายลง เรื่องราคาต่างๆ ก็อาจปรับยืดหยุ่นลงได้ 



           ส่วนการต่อสัมปทานกับบีทีเอส ที่จะหมดปี 2572 มองว่ายังมีเวลาพิจารณาว่าจะต่อหรือไม่ ขอดูสัญญาให้ละเอียดก่อน หลายเรื่องส่วนตัวอยากรู้ว่าสมเหตุสมผลไหม ก็ต้องดูฝ่ายอื่นมาประกอบด้วย ทั้งเรื่องของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งตามลำดับชั้น เมื่อได้ความคืบหน้าก็จะต้องรายงานถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยทราบต่อไป



          อีกประเด็นที่หารือวันนี้ คือการนำสายสื่อสารลงใต้ดิน กรอบวงเงินการก่อสร้าง 1.9 หมื่นล้านบาท จ้างผู้รับเหมา 4 ราย ดำเนินการไปแล้วบางส่วน แต่ปัจจุบันยังไม่มีความคืบหน้า เนื่องจากติดปัญหาเรื่องการหารายได้จากผู้ใช้บริการและมีปัญหาทางด้านเทคนิค จึงต้องศึกษาในรายละเอียดอีกครั้งว่าสัญญาเป็นอย่างไร การหารายได้เป็นอย่างไร สามารถลดวงเงินก่อสร้างได้หรือไม่ รวมทั้งต้องหารือกับผู้ประกอบการและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน เพื่อให้ค่าบริการถูกที่สุด ไม่ให้เป็นภาระของผู้บริโภค



 



#รถไฟฟ้าสายสีเขียว



#กรุงเทพมหานคร

ข่าวทั้งหมด

X