ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ เขียนบทความในหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ ระบุว่า สหรัฐฯจะส่งมอบจรวดล้ำสมัย ชนิดหลายลำกล้อง (HIMARS) พร้อมอาวุธยุทโธปกรณ์อื่นๆให้กับยูเครน ขณะที่การสู้รบระหว่างยูเครนกับรัสเซียยืดเยื้อมากว่า 3 เดือนแล้ว
นายไบเดน กล่าวว่า เป้าหมายของสหรัฐฯคือ ต้องการให้ยูเครน ซึ่งเป็นรัฐเอกราช มีอธิปไตยของตนเอง มีการปกครองระบอบประชาธิปไตย มีความเจริญก้าวหน้า มีอาวุธที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันตนเองจากการรุกรานของรัสเซียซึ่งมีแนวโน้มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ การจัดส่งอาวุธในครั้งนี้ เป็นการช่วยเหลือด้านอาวุธครั้งที่ 11 สำหรับยูเครน จะช่วยให้กองทัพยูเครนสามารถโจมตีเป้าหมายสำคัญๆในสมรภูมิรบในยูเครนได้อย่างแม่นยำมากขึ้น
นายไบเดน ต้องการจะชี้แจงจุดยืนของสหรัฐฯเพื่อให้สาธารณชนทราบว่า อะไรคือ เป้าหมายที่แท้จริงของสหรัฐฯในเรื่องนโยบายเกี่ยวกับยูเครน พร้อมย้ำจุดยืนว่า สหรัฐฯไม่ต้องการจะส่งทหารเข้าไปสู้รบโดยตรงกับรัสเซีย
นายไบเดน กล่าวว่า สหรัฐฯไม่ต้องการให้เกิดการสู้รบระหว่างองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือนาโตกับรัสเซีย แม้ว่าเขาและประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย มีความเห็นไม่ตรงกันในหลายๆเรื่อง อีกทั้งเห็นการรุกรานยูเครนของรัสเซียเป็นการกระทำที่ก้าวร้าว รับไม่ได้ แต่สหรัฐฯจะไม่พยายามยุยงให้มีการล้มล้างรัฐบาลของนายปูติน โดยนายไบเดนแสดงความเห็นเรื่องนี้เกือบ 2 เดือนหลังประกาศระหว่างการเยือนกรุงวอร์ซอ โปแลนด์ ว่า ประชาคมระหว่างประเทศไม่ควรปล่อยให้นายปูตินอยู่ในอำนาจอีกต่อไป
นายไบเดน กล่าวว่า ตราบเท่าที่สหรัฐฯและพันธมิตรนาโตไม่ถูกโจมตีจากรัสเซีย สหรัฐฯจะไม่ส่งทหารอเมริกันเข้าไปในยูเครน เพื่อสู้รบกับรัสเซีย หรือปฏิบัติการทางทหารโจมตีกองทัพรัสเซียโดยตรง สหรัฐฯไม่ได้ส่งเสริมหรือช่วยยกระดับศักยภาพของกองทัพยูเครน ในการโจมตีข้ามเขตชายแดนของตนรุกล้ำเข้าไปยังรัสเซีย นอกจากนั้น สหรัฐฯไม่ต้องการเห็นการสู้รบในยูเครนยืดเยื้อต่อไปเพียงเพราะอยากเห็นทหารรัสเซียบาดเจ็บล้มตายจากการสู้รบในยูเครน
#สหรัฐฯ
#รัสเซีย
#การสู้รบในยูเครน