นายกรัฐมนตรีเมตเต เฟรเดอริกเซน ของเดนมาร์ก เปิดเผยว่า เดนมาร์ก ซึ่งประกาศตนเป็นกลางไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดมาตลอด 30 ปี จะจัดให้มีการลงประชามติในวันพรุ่งนี้(1 มิถุนายน 2565) เพื่อรับฟังความเห็นของประชาชนในเดนมาร์กว่า เห็นชอบข้อเสนอของรัฐบาลเดนมาร์กเรื่องการสมัครเป็นสมาชิกขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ(นาโต)หรือไม่ หลังรัสเซียรุกรานยูเครน กระทบความมั่นคงทั่วทั้งยุโรป พร้อมทั้งรณรงค์ให้ประชาชนไปใช้สิทธิ์ลงประชามติครั้งนี้ให้มากๆ และประกาศจะเพิ่มงบกลาโหมร้อยละ 2 ของจีดีพีของเดนมาร์กภายในปี 2576 เพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดการสมัครเป็นสมาชิกองค์การนาโต
นางเฟรเดอริกเซน เชื่อมั่นว่า ประชาชนในเดนมาร์กจะลงมติในทางสนับสนุนข้อเสนอการสมัครร่วมเป็นสมาชิกนาโต โดยเฉพาะในปัจจุบันที่ประเทศจำเป็นต้องต่อสู้เพื่อให้เกิดความมั่นคงในยุโรป และเป็นช่วงที่เดนมาร์กจะต้องแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับประเทศเพื่อนบ้านซึ่งส่วนใหญ่เป็นสมาชิกนาโตก่อนแล้ว
ขณะเดียวกัน ผลสำรวจความเห็นของประชาชนโดยสำนักโพลล์ส่วนใหญ่ของเดนมาร์กเมื่อวันอาทิตย์ ชี้ว่า กว่าร้อยละ 65 ของผู้มีสิทธิ์ออกเสียง 4.3 ล้านคนของเดนมาร์กจะใช้สิทธิ์ในทางสนับสนุนข้อเสนอของรัฐบาลเรื่องการสมัครร่วมเป็นสมาชิกนาโต แต่นักวิเคราะห์เตือนให้ใช้ความระมัดคระวัง อย่าเพิ่งเชื่อถือผลสำรวจของสำนักโพลล์ ให้พิจารณาตัวแปรบางอย่าง เช่น การลงประชามติครั้งหลังสุดของเดนมาร์กว่าด้วยการบูรณาการความสัมพันธ์ข้ามพรมแดนกับสหภาพยุโรป(อียู) เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2558 ซึ่งมีผู้ไปใช้สิทธิ์ในอัตราต่ำ และเสียงส่วนใหญ่โหวตโน(No) ส่งผลให้ประชามติดังกล่าวตกไปทันที
สำหรับเดนมาร์กเป็นสมาชิกกลุ่มอียูตั้งแต่ปี 2516 ต่อมาเดนมาร์กขอระงับการถ่ายโอนอำนาจต่างๆให้กับกลุ่มอียู ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในกรุงบรัสเซลส์ เบลเยียมในปี 2535 หลังผู้มีสิทธิ์ออกเสียงส่วนใหญ่ ร้อยละ 50.7 ลงประชามติไม่รับสนธิสัญญามาสทริกท์ หรือสนธิสัญญาก่อตั้งกลุ่มอียูเดิม นอกจากนั้น เดนมาร์กไม่ยอมใช้เงินยูโรเป็นเงินสกุลหลักของเดนมาร์ก หลังผู้สิทธิ์ออกเสียงส่วนใหญ่ลงมติไม่รับข้อเสนอดังกล่าวในการลงประชามติในปี 2543 รวมทั้งไม่รับนโยบายร่วมเรื่องกระบวนการยุติธรรม ความมั่นคงภายในและนโยบายกลาโหมของกลุ่มอียู
#เดนมาร์ก
#ประชามติ
#สมัครเป็นสมาชิกนาโต