หลังจากผู้นำสหภาพยุโรป (EU) ประชุมกันเพื่อหาข้อสรุปมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย ด้วยการห้ามนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย ในที่สุดก็ได้ข้อสรุปว่าสามารถตกลงกันได้แล้ว นายชาร์ลส์ มิเชล ประธานคณะมนตรียุโรป เปิดเผยรายละเอียด
-ผู้นำกลุ่ม EU มีมติระงับการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียในสัดส่วนกว่า 2 ใน 3 โดยมีเป้าหมายเพื่อตัดแหล่งการเงินขนาดใหญ่ที่รัสเซียใช้เป็นเครื่องมือในการทำสงคราม
-ลงมติเห็นชอบให้ตัดธนาคารสเบอร์แบงก์ (Sberbank) ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ที่สุดของรัสเซีย ออกจากระบบธุรกรรมโอนเงินระหว่างประเทศ (SWIFT)
-ระงับการดำเนินงานของสถานีวิทยุและโทรทัศน์ของรัฐบาลรัสเซียอีก 3 แห่ง
-คว่ำบาตรบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำสงครามในยูเครน
การลงมติดังกล่าวมีขึ้นในวันจันทร์ (30 พ.ค.65 ) ตามเวลาท้องถิ่น โดยเงื่อนไขภายใต้มติดังกล่าว ระบุว่า รัสเซียยังสามารถขนส่งน้ำมันผ่านทางท่อส่งทางบกให้กับฮังการี, สาธารณรัฐเชก และสโลวาเกีย ซึ่งประเทศเหล่านี้ได้รับการยกเว้นจากมาตรการคว่ำบาตรน้ำมันรัสเซียในครั้งนี้
การเจรจาเกี่ยวกับการระงับนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียใช้เวลานานเกือบ 1 เดือน เนื่องจาก สมาชิกบางประเทศของ EU ซึ่งรวมถึงฮังการี พยายามชะลอการออกมาตรการดังกล่าว โดยให้เหตุผลว่า การระงับนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ เนื่องจาก ฮังการีไม่สามารถหาน้ำมันจากที่อื่นได้ ขณะที่สโลวาเกียและสาธารณรัฐเชกก็แสดงความกังวลต่อเรื่องนี้เช่นเดียวกัน
สถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก เมื่อเวลา 07.00 น. สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนก.ค. พุ่งขึ้น 2.64 ดอลลาร์ แตะที่ระดับ 117.71 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์ ยืนเหนือ 122 ดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนน้ำมันที่ตลาดสิงคโปร์ ปิดตลาดเมื่อคืนนี้ เพิ่มขึ้น 78 เซ็นต์ ปิดที่ 152.52 ดอลลาร์/บาร์เรล
วันนี้ ผู้นำ EU จะหารือกันอีกครั้งในกรุงบรัสเซลส์ เบลเยียม เกี่ยวกับการรุกรานยูเครนของรัสเซีย
#EU
#คว่ำบาตรพลังงานรัสเซีย
รายละเอียดเพิ่มเติม :https://www.js100.com/en/site/news/view/118382
CR:Reuters,CNN,CNBC