อธิบดีกรมกิจการอาหารของบังกลาเทศในฐานะหน่วยงานรัฐที่รับผิดชอบการทำสัญญาซื้อข้าวเปลือกจากต่างประเทศของบังกลาเทศ เปิดเผยว่า การประมูลซื้อข้าวจากต่างประเทศ ซึ่งปิดประมูลเมื่อวานนี้ บริษัทภากาดิยา บราเธอร์ส (Bagadiya Brothers) ผู้ประกอบธุรกิจการค้ารายใหญ่ของบังกลาเทศชนะการประมูล โดยบริษัทเสนอราคาซื้อข้าวสาลีที่ราคา 464.55 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน รวมต้นทุน ค่าประกันและค่าขนส่งทางเรือ โดยบริษัทตกลงจะนำเข้าข้าวสาลีจากต่างแดนราว 50,000 ตัน ชนะคู่แข่งคือ บริษัทแอกโรคอร์ป(Agrocorp) ซึ่งเสนอซื้อข้าวสาลีที่ราคา 465.38 ดอลลาร์ต่อตัน
ตามสัญญานี้ บริษัทที่ชนะประมูลจะเริ่มนำเข้าข้าวสาลีทางเรือภายใน 40 วัน หลังมีการลงนามในข้อตกลงการนำเข้าสินค้าประเภทอาหารกับกรมกิจการอาหารอย่างเป็นทางการ โดยผู้ชนะการประมูลสามารถนำเข้าข้าวสาลีจากทุกประเทศทั่วโลก ยกเว้นจากอิสราเอล พร้อมทั้งกำหนดสถานที่ส่งมอบข้าวสาลีที่ท่าเรือหลักๆ 2 แห่งคือ ท่าเรือจิตตะกอง และท่าเรือมองลา
สำหรับบังกลาเทศนำเข้าข้าวสาลีจากต่างแดนราว 7 ล้านตันในปี 2564 โดยร้อยละ 65 มาจากอินเดีย แต่ปรากฏว่า อินเดีย มีคำสั่งระงับการส่งออกข้าวสาลี ทำให้ปริมาณข้าวสาลีในตลาดเอเชียเริ่มตึงตัว มีสินค้าเข้าสู่ตลาดน้อยกว่าเดิม
ที่ผ่านมา บังกลาเทศจัดโครงการประมูลข้าวระหว่างประเทศมาหลายครั้งในช่วง 2-3 เดือนมานี้ เพื่อนำรายได้จากการประมูลมาเข้าเงินคงคลังของรัฐ หลังจากราคาข้าวสาลีมีราคาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สำหรับบังกลาเทศ อยู่ในเอเชียใต้ เป็นหนึ่งในบรรดาประเทศผู้นำเข้าอาหารที่ได้รับผลกระทบจากการสถานการณ์การสู้รบระหว่างยูเครนและรัสเซีย ซึ่งทำให้ประเทศทั้งสองในฐานะผู้ผลิตอาหารรายใหญ่ของโลก ไม่สามารถส่งออกสินค้าประเภทอาหารสู่ตลาดโลก
#บังกลาเทศ
#โครงการประมูลข้าวระหว่างประเทศ