ประธานาธิบดี อเล็กซานดาร์ วูซิก แห่งเซอร์เบีย เปิดเผยในวันนี้ (29 พ.ค.) ว่าเขาโทรศัพท์พูดคุยกับประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย และตกลงทำสัญญาจัดหาก๊าซธรรมชาติกับรัสเซียเป็นเวลา 3 ปี รวมถึงการขยายพื้นที่เก็บสำรองก๊าซธรรมชาติในประเทศ แต่ปฏิเสธที่จะเปิดเผยรายละเอียดอื่น โดยบอกว่าเป็นส่วนที่มีความเกี่ยวข้องกับกาซพรอม (Gazprom) ซึ่งจะต้องมีการทำความตกลงกันต่อไป
เซอร์เบียพึ่งพาพลังงานจากรัสเซียเป็นหลักมาตั้งแต่เมื่อปี 2551 แต่สัญญาการจัดหาก๊าซธรรมชาติเป็นเวลา 10 ปี วันละประมาณ 6 ล้านลูกบาศก์เมตรจากกาซพรอมกำลังจะหมดอายุในวันที่ 31 พฤษภาคม นี้
การที่เซอร์เบียมีนโยบายที่เป็นมิตรกับรัสเซีย แต่มีความต้องการเข้าเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป ทำให้ถูกกลุ่มประเทศตะวันตกกดดันให้ปรับนโยบายด้านการต่างประเทศ และสนับสนุนมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย แต่เซอร์เบียไม่เห็นด้วย เนื่องจากมาตรการคว่ำบาตรไม่เป็นผลดีต่อทุกประเทศทั้งในแง่ของการเมืองและเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม ในการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ เมื่อวันที่ 7 เมษายน ของปีนี้ เซอร์เบียเป็น 1 ใน 93 ประเทศที่ลงมติให้ระงับสมาชิกภาพรัสเซียจากคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เนื่องจากการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงและเป็นระบบในยูเครน แต่ต่อมา ประธานาธิบดีวูซิก เปิดเผยว่า เซอร์เบียถูกข่มขู่ว่าอาจไม่ได้รับข้อยกเว้นจากแพกเกจคว่ำบาตรพลังงานรัสเซีย ซึ่งจะทำให้ไม่สามารถนำเข้าน้ำมันหลังจากวันที่ 15 พฤษภาคม ทำให้เซอร์เบียต้องเปลี่ยนการลงมติจากการงดออกเสียง เป็นการสนับสนุนให้ระงับสมาชิกภาพของรัสเซีย
...
#เซอร์เบีย
#ก๊าซจากรัสเซีย