วันสุดท้ายหรือวันที่ 3 ของการประชุมในกรุงเบอร์ลิน เยอรมนี รัฐมนตรีพลังงานและรัฐมนตรีด้านสภาพภูมิอากาศจากกลุ่ม 7 ประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก(กลุ่มจี-7)ได้แก่ เยอรมนี อังกฤษ ฝรั่งเศส อิตาลี ญี่ปุ่น แคนาดาและสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ร่วม ให้คำมั่นว่ากลุ่มจี-7 จะหยุดใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล รวมถึงถ่านหิน เพื่อการผลิตกระแสไฟฟ้าภายในปี 2578 หรือ 13 ปีข้างหน้า
นอกจากนั้น กลุ่มจี-7 ตกลงจะหยุดให้การสนับสนุนทางการเงินสำหรับโครงการเชื้อเพลิงฟอสซิลในต่างแดนภายในปลายปีนี้ ยกเว้นโครงการที่ผ่านการอนุมัติจากรัฐด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงแห่งชาติหรือเป็นผลประโยชน์ด้านภูมิยุทธศาสตร์ของประเทศ ขณะเดียวกัน กลุ่มจี-7 จะจัดทำแผนส่งเสริมพลังงานทดแทน และสนับสนุนให้มีการใช้เทคโนโลยีและปรับเปลี่ยนนโยบายต่างๆที่จำเป็น เพื่อปรับเปลี่ยนไปสู่การใช้พลังงานสะอาดมากขึ้น
กลุ่มจี-7 ประกาศจุดยืนดังกล่าวแม้ว่าพวกเขาประสบปัญหาความมั่นคงด้านพลังงานหลังสถานการณ์สู้รบในยูเครน ขณะเดียวกัน กลุ่มสหภาพยุโรป(อียู)พยายามจะหาแหล่งพลังงานใหม่ พร้อมทั้งปรับลดการนำเข้าน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติจากรัสเซีย
ด้านเยอรมนี ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานของกลุ่มจี-7 ระบุว่า การแสวงหาเชื้อเพลิงฟอสซิลจากแหล่งพลังงานอื่นๆจะต้องไม่กระทบเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อม นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งประธานของกลุ่มจี-7 ในเดือนธันวาคมปีก่อน เยอรมนีประกาศจะหยุดใช้ถ่านหินในการผลิตกระแสไฟฟ้าในอีก 8 ปีข้างหน้า หรือในปี 2573 พร้อมทั้งผลักดันให้สมาชิกอื่นๆของกลุ่มจี-7 ให้เสนอมาตรการที่ชัดเจนเพื่อเลิกใช้ถ่านหินสำหรับการผลิตกระแสไฟฟ้า ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลก
#กลุ่มจี7
#แผนเลิกใช้ถ่านหิน