*นายกฯจะพิจารณาดูกฎหมายอื่นแทนกฎอัยการศึกขอพิจารณาเรื่องการทำประชามติเอง*

กรณีที่นักลงทุนต่างชาติห่วงการประกาศกฎอัยการศึกในประเทศไทยว่าจะกระทบต่อการลงทุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุว่า จะรับไปพิจารณา โดยจะหากฎหมายเข้ามารองรับเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน รวมถึงดูแลสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศ ซึ่งยืนยันว่ารัฐบาล จะยังคงกฎอัยการศึกเพื่อควบคุมสถานการณ์ เพราะถึงอย่างไรขณะนี้ก็ยังมีกลุ่มคนออกมาเคลื่อนไหว โดยไม่เกรงกลัวต่อกฎอัยการศึก ซึ่งหากมีกฎหมายใหม่ออกมา เชื่อว่ากลุ่มที่ต่อต้านก็จะไม่ยอมรับอยู่ดี เพราะที่มีการใช้กฎหมายทั้งพระราชบัญญัติความมั่นคงและพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ก็ยังไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้  จึงจำเป็นจะต้องใช้กฎอัยการศึกเข้ามาควบคุมสถานการณ์  ซึ่งในวันนี้รัฐบาล ขอประชาชนว่าอย่ากังวลเรื่องกฎหมาย เพราะรัฐบาลจะเป็นผู้ดำเนินการเอง และขอให้ประชาชนร่วมมือและอย่าสร้างความขัดแย้ง

นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงการทำประชามติภายหลังการร่างรัฐธรรมนูญว่า การทำประชามติ จะเป็นคนตัดสินใจเอง และประเมินสถานการณ์เอง  เพราะในรัฐธรรมนูญชั่วคราวไม่ได้กำหนดไว้ ซึ่งขอให้ร่างรัฐธรรมใกล้เสร็จก่อน แต่ที่วันนี้หลายฝ่ายออกมาเรียกร้องให้ใช้รัฐธรรมนูญฉบับเดิม และอยากให้มีการปฏิรูป ส่วนตัวมองว่า การใช้รัฐธรรมนูญฉบับเดิมจะทำให้การปฏิรูปเสียเวลา และหากการปฏิรูปไม่สำเร็จ ก็อาจจะมีคน ว่ารัฐบาลเข้ามาทำงานไม่สำเร็จ

กรณีที่นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ระบุว่าจะเว้นวรรคทางการเมือง หากร่างรัฐธรรมนูญที่ออกมาไม่สมบูรณ์ นายกรัฐมนตรี  มองว่าเป็นเรื่องดีที่จะเว้นวรรค จะได้ไม่มีความขัดแย้งเกิดขึ้นอีก พร้อมกล่าวว่า  ไม่จำเป็นต้องเรียกมาปรับทัศนคติเพราะเขื่อว่าไม่สามารถปรับทัศนคติได้

ส่วนการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า  มีการพูดคุยในเรื่อง สิทธิประโยชน์ รวมถึงการกำหนดโรดแม๊ปในแต่ละพื้นที่ ที่อาจมีอุตสาหกรรมหรือกิจกรรมหลายๆ อย่างในพื้นที่ ไม่ใช่แค่อุตสาหกรรมเพียงอย่างเดียว ซึ่งอาจรวมไปถึงการผลิต การเกษตรและการท่องเที่ยว ที่สามารถสร้างงานสร้างรายได้ในพื้นที่ ซึ่งอนาคตพื้นที่ที่กำหนดไว้นั้น ส่วนหนึ่งจะเป็นนิคมอุตสาหกรรมเพื่อให้คนมาลงทุน ส่วนที่สองจะเปิดพื้นที่บางส่วนให้ภาคเอกชนเช่า และส่วนที่สามคือส่งเสริมโรงงานในพื้นที่เดิมให้มีความเข้มแข็งขึ้น ซึ่งการดำเนินการทั้งหมดนี้ต้องมีการพูดคุยกับประเทศเพื่อนบ้านในเรื่องของ สิทธิประโยชน์ ภาษี เงินทุนและระยะเวลาในการประกอบการเพื่อให้เกิดประโยชน์กับคนไทยมากที่สุด และจะต้องไม่กระทบสิ่งแวดล้อม  นายกฯ กล่าวถึง วันที่ 21 มี.ค.นี้ ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิด ครบรอบ 61 ปี ว่า จะทำบุญอยู่ที่บ้าน และขอความเป็นส่วนตัว

วิรวินท์