คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกันในการออกมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมต่อเกาหลีเหนือ เนื่องจากสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคง 13 ประเทศออกเสียงสนับสนุน แต่จีนและรัสเซียใช้สิทธิยับยั้งหรือวีโต้
สหรัฐฯ เสนอมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมเพื่อลงโทษที่เกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธหลายครั้งในปีนี้ รวมถึงครั้งล่าสุดที่มีขึ้นตามหลังการเดินทางเยือน 2 ประเทศเอเชียของประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ โดยในมาตรการ ระบุให้เกาหลีเหนือลดการนำเข้าน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมกลั่นลงอีกร้อยละ 25 และให้คว่ำบาตรการส่งออกสินค้าประเภทนาฬิกา และแร่เชื้อเพลิง ซึ่งนางลินดา โธมัส-กรีนฟิลด์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ เรียกร้องให้สมาชิกมีความสามัคคีกันเมื่อเผชิญกับภัยคุกคามต่อประชาคมระหว่างประเทศทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม จีนและรัสเซียคัดค้านการคว่ำบาตรครั้งใหม่ด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรม โดยชี้ให้เห็นว่าเป็นมาตรการที่ “ไร้ประโยชน์”
คณะมนตรีความมั่นคงฯ กำหนดมาตรการคว่ำบาตรต่อเกาหลีเหนือเมื่อปี 2549 หลังจากการทดสอบนิวเคลียร์ครั้งแรก และเพิ่มความเข้มงวดมากขึ้น จนถึงในปี 2560 จีนและรัสเซียเริ่มการคัดค้านมาตรการโดยระบุว่าไม่สามารถทำให้เกาหลีเหนือยุติโครงการอาวุธนิวเคลียร์ได้ นายจาง จุน เอกอัครราชทูตจีน กล่าวว่า มาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมจะทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีก
#ยูเอ็น
#จีนและรัสเซียยับยั้งมติคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ