อิรักผ่านกฎหมายลงโทษผู้ที่สนับสนุนอิสราเอล มีความผิดทางอาญา

          รัฐสภาอิรักผ่านกฎหมายลงโทษบุคคล องค์การและบริษัทที่มีความสัมพันธ์กับอิสราเอล โดยระบุว่า เป็นอาชญากรรมมีโทษประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิต

          กฎหมายมีชื่อว่า “การทำให้เป็นมาตรฐานทางอาญาและการสถาปนาความสัมพันธ์กับองค์กรไซออนิสต์” (Criminalising Normalisation and Establishment of Relations with the Zionist Entity) ผ่านการพิจารณาด้วยคะแนนเสียง 275 เสียงจากทั้งหมด 329 เสียง ซึ่งรัฐสภา ระบุในแถลงการณ์ว่ากฎหมายฉบับนี้เป็นภาพสะท้อนที่แท้จริงของเจตจำนงของประชาชน

          อิรักและอิสราเอลไม่มีความสัมพันธ์ทางการทูต ทั้งอิรักยังไม่ยอมรับพลเมืองอิสราเอลและไม่อนุญาตให้ชาวอิรักเดินทางไปอิสราเอล กฎหมายฉบับใหม่นี้มีผลบังคับใช้กับชาวอิรัก หน่วยงานของรัฐ และสถาบันอิสระทั้งหมด รวมถึงชาวต่างชาติที่ทำงานในประเทศ ซึ่งเป็นประเด็นที่ทำให้เกิดความกังวลว่าอาจทำผิดกฎหมายของอิรักได้

          กฎหมายฉบับนี้เสนอโดยนายมุคทาดา อัล-ซาดร์ นักบวชชีอะห์ที่มีอิทธิพล ซึ่งต่อต้านความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับสหรัฐฯ และอิสราเอล โดย พรรคซาดริสต์ มูฟเมนต์ ของเขาได้รับที่นั่งเพิ่มขึ้นในรัฐสภาอิรักในการเลือกตั้งเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว (2564) และหลังจากที่กฎหมายผ่านการพิจารณา เขาขอให้ชาวอิรักออกไปที่ถนนเพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ ซึ่งพบว่ามีชาวอิรักจำนวนมากร่วมการชุมนุมในแบกแดด พร้อมตะโกนคำขวัญต่อต้านอิสราเอล

          กฎหมายฉบับนี้ ยังมีเป้าหมายเพื่อป้องกันกลุ่มเคิร์ดที่อาจมีความสัมพันธ์ลับกับอิสราเอล โดยเมื่อต้นปีนี้ (2565) อิหร่านได้ยิงขีปนาวุธจำนวน 12 ลูก โจมตีเป้าหมายในเมืองเออร์บิล ทางเหนือของอิรักที่ปกครองโดยชาวเคิร์ด หนึ่งในเป้าหมายคือบ้านของนายบาซ การิม ซีอีโอของกลุ่มบริษัทน้ำมันคาร์ (KAR GROUP) ซึ่งเคยถูกกล่าวหาว่าขายน้ำมันให้อิสราเอล นอกจากนี้ยังเป็นเวลาหลายเดือนมาแล้วที่มีความขัดแย้งเกิดขึ้นในเขตปกครองตนเองเคอร์ดิสถานของอิรัก ซึ่งสนับสนุนให้อิรักสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิสราเอลในระดับปกติ

....

#อิรัก

#อิสราเอล