รัฐบาลท้องถิ่นกรุงปักกิ่งของจีน เปิดเผยว่า กรุงปักกิ่งได้ยกระดับการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ให้เข้มงวดยิ่งขึ้นตามนโยบายลดโรคเหลือ 0 ของรัฐบาลจีน ขู่จะลงโทษสถานประกอบการที่ละเมิดมาตรการควบคุมโรค หรือเลี่ยงกฎระเบียบควบคุมการเดินทางของประชาชน เพื่อสกัดการแพร่ระบาด พร้อมแนะนำประชาชนให้แจ้งเบาะแสกับตำรวจ กรณีพบเห็นคนเดินทางออกจากบ้านเรือน โดยละเมิดมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ด้านสำนักข่าวซินหัวของทางการจีน เสนอบททัศนะวิจารณ์ว่า สถานประกอบกิจการบางแห่งเพิกเฉย ไม่ทำตามนโยบายควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ไม่จัดให้มีการตรวจสุขภาพของพนักงานก่อนเข้าทำงานในสถานประกอบการ เท่ากับเปิดช่องโหว่ให้โรคโควิด-19 เข้ามาแพร่ระบาดแบบคลัสเตอร์ระลอกใหม่ๆในกรุงปักกิ่ง
อีกตัวอย่างหนึ่งเกี่ยวกับการลงโทษทางวินัย คือ สำนักงานปราบปรามทุจริตของกรุงปักกิ่ง เปิดเผยว่า พนักงานบางคนของบริษัทไปรษณีย์ของรัฐประจำกรุงปักกิ่งถูกไล่ออก หรือ ได้รับจดหมายเตือนขู่ลงโทษทางวินัยร้ายแรง หลังเกิดการระบาดแบบคลัสเตอร์ในบริษัทโลจิสติกส์แห่งหนึ่งของเอกชน ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของบริษัทไปรษณีย์ของจีน โดยสำนักงานปราบปรามทุจริตของกรุงปักกิ่งระบุว่า บริษัทดังกล่าวไม่ทำตามมาตรการควบคุมโรค เช่น จัดให้มีการตรวจโรคโควิด-19 สำหรับพนักงาน ทั้งไม่ทำตามข้อกำหนดเรื่องการให้พนักงานรับวัคซีนก่อนเข้าทำงาน
นับแต่ปลายเดือนเมษายน กรุงปักกิ่ง ซึ่งมีประชากร 22 ล้านคน พบผู้ป่วยรายใหม่กว่า 10 คนต่อวัน แม้ว่าผู้ป่วยส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ควบคุม เช่น ศูนย์กักกันกลุ่มเสี่ยง แต่มีผู้ป่วยใหม่หลายคนอยู่ในชุมชนทั่วไป แสดงให้เห็นว่า ไวรัสโอไมครอนซึ่งระบาดเร็วกว่าสายพันธ์ก่อนๆกระทบต่อนโยบายลดโรคเหลือ 0 ของจีน แม้ว่า ประเทศจีนใช้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เข้มงวดมากที่สุดในโลก เช่น การล็อกดาวน์ศูนย์กลางแพร่ระบาดกว่า 10 เมือง รวมทั้งนครเซี่ยงไฮ้ในขณะนี้ กระทบการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีน ซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจอันดับที่สองของโลก และกระทบซัพพลายเชนทั่วโลก
สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดในวันนี้ ประเทศจีน พบผู้ป่วยรายใหม่ 117 คน ผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 223,605 คน เสียชีวิต 5,224 ราย
#ประเทศจีน
#คุมเข้มการคุมโควิดในกรุงปักกิ่ง