วัดพระธรรมกายยอมคืนเงินบริจาคให้สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น

จากกรณีที่สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์ฯ พระลูกวัดพระธรรมกาย  วัดพระธรรมกาย พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย  ในฐานะจำเลยที่ 1-4 จากกรณีที่นายศุภชัย นำเงินสหกรณ์ไปบริจาควัดกว่า 818 ล้านบาทโดยที่สมาชิกสหกรณ์ฯ ไม่ได้รู้เห็นยินยอมด้วยและศาลจังหวัดธัญบุรีได้นัดคู่ความมาเจรจาไกล่เกลี่ยคดีในเช้าวันนี้เพื่อนำเงินไปคืนให้กับสมาชิกสหกรณ์นั้น

นายฐาปณวัฒน์ สระสม ทนายความสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น เปิดเผยหลังการไกล่เกลี่ยนนานกว่า 4 ชั่วโมงว่า คู่ความได้เจรจาไกล่เกลี่ยกับศาลเป็นที่เรียบร้อย โดยวัดพระธรรมกายยินยอมที่จะคืนเงินจำนวน 684,780,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นเช็คที่ออกไปจากสหกรณ์ฯ 13 ฉบับที่เป็นส่วนของพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายและส่วนที่วัดพระธรรมกายรับมาจากนายศุภชัย เพื่อนำไปใช้สร้างเคหสถานภายในวัดแล้ว ซึ่งการคืนเงินจะแบ่งจ่ายเป็นเช็คจำนวน 6 งวดงวดละ 100 ล้านบาท เว้นงวดสุดท้ายที่จะสั่งจ่าย 184 ล้านบาท โดยเริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคมในวันนี้ที่รับมาแล้ว 1 ฉบับและจะสิ้นสุดวันที่ 31 สิงหาคม 2558 โดยจะสั่งจ่ายเข้าปลายเดือนของทุกเดือน ส่วนที่เหลืออีก 100 กว่าล้านบาท ซึ่งเป็นเช็ค 1 ฉบับจะต้องฟ้องคดีต่อนายศุภชัยและมูลนิธิรัตนคีรี ซึ่งตรวจสอบพบว่าเป็นมูลนิธิในเครือพระลูกวัดพระธรรมกายต่อไป ซึ่งขณะนี้กำลังตรวจสอบว่าจะมีผู้ใดเกี่ยวโยงอีกหรือไม่ และอยู่ระหว่างการรอศาลนัดไต่สวนคดี ส่วนการคืนเงินนี่ก็น่าจะเป็นอีกหลักฐานหนึ่งที่จะช่วยให้ศาลล้มละลายกลางพิจารณาเห็นว่าสหกรณ์ฯสามารถดำเนินแผนฟื้นฟูได้ อย่างไรก็ดีขอให้รอคำพิพากษาในวันที่ 20 มีนาคมนี้ เวลา 09.00 ซึ่งตัวเองจะเดินทางไปพร้อมตัวแทนสหกรณ์ พร้อมขอร้องสื่อว่าอย่านำเสนอข่าวในเชิงชี้นำการฟื้นฟูของสหกรณ์ที่จะพิพากษาคดีวันที่ 20 นี้ เนื่องจากกลังเป็นการชี้นำศาล

ด้านนางประภัสสร พงศ์พันธุ์พิศาล เลขานุการและกรรมการสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ระบุว่า รู้สึกดีใจที่สามารถเจรจาความจบด้วยดี จากนี้จะถอนฟ้องคดีต่างๆของวัดและพระธัมมชโยทั้งหมด เพราะเป็นที่สิ้นสุดแล้ว โดยในวันนี้จะให้ทนายไปยื่นหนังสือถอนฟ้องทั้งทางแพ่งและอาญาต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. ส่วนเงินที่ได้คืนมานี้จะนำไปจ่ายแก่สมาชิกเพื่อเยียวยาช่วยเหลือ แต่ยังไม่สามารถจ่ายได้ทันที เพราะต้องรอดูคำพิพากษาของศาลล้มละลายกลางในวันที่ 20 มีนาคมนี้ก่อนว่าศาลจะพิพากษาอนุมัติแผนฟื้นฟูของสหกรณ์และตัดสินล้มละลายหรือไม่ ซึ่งหากอนุมัติก็จะสั่งจ่ายได้ทันที แต่ถ้าไม่ต้องให้พนักงานบังคับคดีเข้ามาดำเนินกิจการแทน อย่างไรก็ดีในวันนี้เวลา 14.00น. สหกรณ์ฯจะแถลงข่าวถึงการคืนเงินนี้และแนวทางการทำงานของสหกรณ์ฯที่สำนักงานใหญ๋ของสหกรณ์ด้วย

ขณะที่ นาย สัมพันธ์ เสริมชีพ  ทนายความของวัดพระธรรมกาย เปิดเผยว่า เงินดังกล่าวได้มาจากกองทุนที่วัดจัดตั้งขึ้นมา โดยเป็นเงินของศิษยานุศิษย์ที่ศรัทธา ซึ่งใช้เวลาเรี่ยไรไม่นาน ก็รู้สึกยินดีที่คดีจบแล้วด้วยดี เเละทางสหกรณ์ฯจะได้นำเงินไปคืนให้กับสมาชิกต่อไป ส่วนหากหนวยงานต่างๆต้องการข้อมูลเพิ่มเติม วัดก็ยินดี

ทั้งนี้หลังการเจรจาคู่ความทั้งสองได้ยื่นหนังสือขอบคุณที่คดีจบลงด้วยดี โดยในวันนี้ไม่พบสมาชิกสหกรณ์หรือศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกายเดินทางมาให้กำลังใจแต่อย่างใด

 

...ผสข.ธีรวัฒน์ สิทธิเกรียงไกร รายงาน