ความคืบหน้าเหตุกราดยิงที่โรงเรียนประถมร็อบ เมืองอูวัลดี รัฐเท็กซัส เจ้าหน้าที่ตำรวจพื้นที่เปิดเผยว่าเด็กที่เสียชีวิตคือเป็นนักเรียนในระดับเกรดสอง สาม และสี่ ซึ่งหมายถึงเป็นผู้ที่มีอายุระหว่าง 7 ถึง 10 ปี และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 21 ราย เป็นนักเรียน 18 รายและผู้ใหญ่ 3 ราย แต่ตำรวจและโรงพยาบาลไม่เปิดเผยจำนวนผู้บาดเจ็บที่แน่ชัด โดยระบุว่า มีตำรวจบาดเจ็บ 2 นาย จากการยิงปะทะกับผู้ต้องสงสัย ทั้งคู่ไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส
ด้านศูนย์บริจาคโลหิตเซ้าท์เท็กซัส (South Texas Blood & Tissue Center) ทวีตข้อความขอรับบริจาคโลหิตเพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุกราดยิงที่โรงเรียนประถม
และสถานีโทรทัศน์ ซีบีเอส รายงานว่า ผู้ก่อเหตุกราดยิง เป็นผู้ต้องสงสัยว่าจะยิงยายของเขาก่อนที่จะมาก่อเหตุที่โรงเรียน
สำหรับเมืองอูวัลดีที่เกิดเหตุมีประชากรราว 16,000 คน ห่างออกไปทางตะวันตกของซานอันโตนิโอ 83 ไมล์ ผู้ก่อเหตุเป็นชาวเมืองอูวัลดี เขาเสียชีวิตแล้ว และคาดว่าจะเป็นการถูกวิสามัญฆาตกรรม
ประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ กล่าวที่ทำเนียบขาวว่า จะต้องมีเด็กอีกกี่คนที่จะต้องสูญเสียเพื่อนไปเหมือนกับว่าพวกเขาอยู่ในสนามรบ ขณะที่พ่อแม่ผู้ปกครอง การสูญเสียลูกเปรียบเสมือนกับจิตวิญญาณถูกฉีกขาด ซึ่งไม่มีวันกลับไปเหมือนเดิม ซึ่งเขาให้คำมั่นว่า จะต่อสู้กับกลุ่มคัดค้านการแก้ไขกฎหมายอาวุธปืน แม้ว่าจะรู้สึกรู้สึกเหนื่อยล้า แต่นี่คือสิ่งที่ต้องลงมือทำ เหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อทุกคน โดยเฉพาะการที่เด็กอายุ 18 ปีสามารถเดินเข้าไปในร้านค้าและซื้ออาวุธจู่โจมได้ การกราดยิงที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากเช่นนี้ ไม่ค่อยได้เกิดขึ้นที่ใดในโลก
นางกมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวเรียกร้องให้มีนักการเมืองมีความกล้าที่จะสนับสนุนการออกนโยบายสาธารณะที่ “สมเหตุสมผล" เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีเหตุกราดยิงเกิดขึ้นอีก เธอกล่าวว่า "ทุกครั้งที่โศกนาฏกรรมแบบนี้เกิดขึ้น ทำให้ทุกคนต้องใจสลาย แต่เหตุการณ์นี้ก็ยังคงเกิดขึ้นอีก
นางฮิลลารี คลินตัน อดีตผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากเดโมแครต ทวีตข้อความว่า "เรากำลังกลายเป็นประเทศแห่งเสียงกรีดร้องที่เจ็บปวด"และเรียกร้องให้มีการแก้ไขกฎหมายเพื่อควบคุมอาวุธปืน ซึ่งเธอเห็นว่า "เราแค่ต้องการสมาชิกสภานิติบัญญัติที่เต็มใจที่จะหยุดความรุนแรงจากปืนในอเมริกาที่ฆ่าลูกหลานของเรา"
อย่างไรก็ตาม นายเท็ด ครูซ วุฒิสมาชิกรัฐเท็กซัส กล่าวยอมรับว่าเหตุกราดยิงที่โรงเรียนประถมเป็นเหตุการณ์ที่น่ากลัว แต่การแก้ไขกฎหมายเพื่อควบคุมอาวุธปืนไม่ใช่วิธีป้องกันอาชญากรรม เพราะการแก้ไขกฎหมายคือการจำกัดสิทธิของพลเมืองที่ปฏิบัติตามกฎหมาย สิ่งที่สำคัญคือการป้องกันอาชญากรไม่ให้ก่อเหตุ และวิพากษ์วิจารณ์นักการเมืองคนอื่นๆ ที่พยายามผลักดันกฎหมายเพื่อผลทางการเมือง
....
#กราดยิงในโรงเรียนประถม
#รัฐเท็กซัส
#สหรัฐฯ
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม: https://www.js100.com/en/site/news/view/118219