ดร.โรซามันด์ ลูวิส หัวหน้าแผนกไข้ทรพิษขององค์การอนามัยโลก(WHO) เปิดเผยว่า มีความเป็นไปน้อยมากที่เชื้อไวรัสจากโรคฝีดาษลิงจะกลายพันธุ์ ตอนนี้ยังไม่พบหลักฐาน การตรวจพันธุ์กรรมของเชื้อไวรัสจากผู้ป่วยจะช่วยให้เราทราบลักษณะการแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิงในปัจจุบันมากยิ่งขึ้น ที่ผ่านมา ผู้เชี่ยวชาญหลายคนเตือนให้ทั่วโลกเฝ้าระวังเรื่องการกลายพันธุ์ของโรคฝีดาษลิง ซึ่งอาจจะทำให้เชื้อไวรัสแพร่ระบาดเร็วขึ้น หรือทำให้ผู้ป่วยมีอาการทรุดหนักกว่าเดิม
ด้านนางมาเรีย แวน เคอร์โคฟ หัวหน้าฝ่ายเทคนิคของโครงการฉุกเฉินด้านสาธารณสุขของ WHO กล่าวว่า ผู้ป่วยกว่า 100 คนในยุโรปและทวีปอเมริกาเหนือส่วนใหญ่มีอาการไม่รุนแรง มั่นใจว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดในยุโรปจะอยู่ในวงจำกัด ควบคุมสถานการณ์ได้ในที่สุด แต่ทุกฝ่ายยังไม่อาจวางใจได้เกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดในทวีปแอฟริกา เนื่องจาก โรคฝีดาษลิง ยังเป็นโรคประจำถิ่น
WHO แนะนำให้โรงพยาบาล ตลอดถึงคลินิกด้านผิวหนังและคลินิกสุขภาพทางเพศให้เฝ้าระวังการแพร่ระบาดด้วย หลังมีรายงานว่า คนไข้บางรายที่ได้รับการวินิจฉัยว่า ป่วยจากโรคฝีดาษลิง เป็นชายที่เคยมีเพศสัมพันธ์กับชาย(MSM) แต่เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ระบุว่า ยังเร็วเกินไปที่จะอธิบายเหตุผลในเรื่องนี้ในขณะนี้ แต่หลายฝ่าย เชื่อว่า ประชากรกลุ่มดังกล่าวอาจจะไปขอคำแนะนำทางการแพทย์ หรือ เข้ารับการตรวจสุขภาพทางเพศจากคลินิกเหล่านั้น
โดยปกติ โรคฝีดาษลิง จะไม่ติดจากผู้ป่วยไปสู่คนทั่วไปได้ง่าย แต่จะแพร่ระบาดจากผู้ป่วยสู่กลุ่มเสี่ยง คือ คนใกล้ชิดกับผู้ป่วย หรือคนที่ใช้สิ่งของร่วมกับผู้ป่วย เช่น เสื้อผ้า เตียงนอน หรือ ใช้ภาชนะร่วมกัน
#WHO
#ฝีดาษลิง
#ไม่มีหลักฐานกลายพันธุ์