ชาวอเมริกันแบกรับของแพง เงินเฟ้อสูง 'ไบเดน'พิจารณา'เลิกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน'

24 พฤษภาคม 2565, 05:21น.


           การแถลงของนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในระหว่างการแถลงข่าวร่วมกับนายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ที่ญี่ปุ่นว่าอยู่ระหว่างพิจารณาปรับลดภาษีสินค้านำเข้าจากจีน เป็นการกล่าวย้ำสิ่งที่ประธานาธิบดีไบเดน เคยกล่าวไว้เมื่อวันที่ 10 พ.ค.65 ว่า รัฐบาลสหรัฐฯจะยกเลิกการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน โดยมีเป้าหมายที่จะสกัดราคาสินค้าแพงในสหรัฐฯ



          ประธานาธิบดีไบเดน ส่งสัญญาณยุติการทำสงครามการค้ากับจีน และจะหารือเรื่องดังกล่าวกับนางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจการเดินทางเยือนญี่ปุ่นและกลับสหรัฐฯ  เนื่องจาก รัฐบาลของประธานาธิบดีไบเดน ไม่ได้เป็นผู้กำหนดมาตรการเก็บภาษีแต่เป็นรัฐบาลของนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ตั้งใจจะส่งเสริมสินค้าที่ผลิตโดยชาวอเมริกัน



          คำสั่งของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ ในการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 3.50 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯจะหมดอายุลงโดยอัตโนมัติในวันที่ 6 ก.ค.65 ขณะที่มีการคาดการณ์กันว่ารัฐบาลของประธานาธิบดีไบเดน จะไม่ขยายระยะเวลาการบังคับใช้คำสั่งดังกล่าว ท่ามกลางเงินเฟ้อที่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ในสหรัฐฯ



          ก่อนหน้านี้ นางเยลเลน ได้แสดงความเห็นชอบที่จะให้มีการปรับลดอัตราภาษีสินค้านำเข้าจากจีน เนื่องจาก มาตรการดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคและภาคธุรกิจสหรัฐฯ



          สถาบันปีเตอร์สัน คาดการณ์ว่า การปรับลดอัตราภาษีสินค้านำเข้าจากจีน จะช่วยให้ชาวอเมริกันแต่ละครัวเรือนประหยัดเงินได้ราว 800 ดอลลาร์สหรัฐฯ



          ด้านนายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ กล่าวก่อนหน้านี้ว่า ประธานาธิบดีไบเดน อาจเจรจากับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า



          นักเศรษฐศาสตร์ เชื่อว่า การยกเลิกมาตรการจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน จะช่วยบรรเทาปัญหาเงินเฟ้อในสหรัฐฯ โดยการผ่อนปรนหรือการยกเลิกมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าทั้งหมด อาจเป็นหนึ่งในทางเลือกเพียงไม่กี่ทางที่ทำเนียบขาวจำเป็นจะต้องทำเพื่อฉุดต้นทุนสินค้าทุกประเภทให้ลดลง หลังจากที่เงินเฟ้อพุ่งสูงสุดในรอบ 40 ปี



          ประเด็นนี้ ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดตลาดบวกในวันจันทร์ (23พ.ค.65) ได้แรงหนุนจากสถาบันการเงินต่างๆ และการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลังจากวอลล์สตรีทขยับลงต่อเนื่องเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

-ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 618.34 จุด (1.98%) ปิดที่ 31,880.24 จุด



-เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 72.39 จุด (1.86%) ปิดที่ 3,973.75 จุด



-แนสแดค เพิ่มขึ้น 180.66 จุด (1.59%) ปิดที่ 11,535.28 จุด

 





#สงครามการค้า



#สหรัฐฯจีน



CR:CNBC



 



 

ข่าวทั้งหมด

X