ว่างงานไตรมาสแรกปีนี้ ลดลงร้อยละ 1.53 สภาพัฒน์ฯห่วงเด็กจบใหม่

23 พฤษภาคม 2565, 12:41น.


          สถานการณ์ว่างงานในไตรมาสแรกของประเทศไทยในปี 2565 นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ เปิดเผยว่า ในไตรมาส 1 ของปี 2565 มีจำนวนผู้ว่างงานทั้งสิ้น 6.1 แสนคน ลดลงจาก 7.6 แสนคนในช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลงจาก 6.3 แสนคนในไตรมาสก่อนหน้า คิดเป็นอัตราการว่างงาน ร้อยละ 1.53  ต่ำที่สุดในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19  ขณะที่ผู้เสมือนว่างงาน มีจำนวนถึง 3.8 ล้านคน 



          ที่น่าสนใจ คือ ผู้ว่างงานที่ไม่เคยทำงานมาก่อนยังคงเพิ่มขึ้น มีจำนวน 2.6 แสนคน คิดเป็นร้อยละ  5.2 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สวนทางกับผู้ว่างงานที่มีประสบการณ์ทำงานที่เริ่มปรับตัวลดลง รวมถึง จำนวนผู้ว่างงานระยะยาวยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยมีจำนวนถึง 1.7 แสนคน และการว่างงานในกลุ่มแรงงานที่จบการศึกษาสูงยังอยู่ในระดับสูง โดยอัตราการว่างงานของผู้จบการศึกษาระดับอุดมศึกษาอยู่ที่ร้อยละ3.10



          ขณะที่ภาพรวมการจ้างงานมีจำนวนทั้งสิ้น 38.7 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 3 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นทั้งในและนอกภาคเกษตรกรรม โดยการจ้างงานภาคเกษตรกรรม มีจำนวน 11.4 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 3 จากการเพิ่มการผลิตสินค้าเกษตรในกลุ่มพืชสำคัญ





          ส่วนนอกภาคเกษตรกรรมมีการจ้างงาน 27.3 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 3 โดยสาขาที่มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น ได้แก่ สาขาการผลิต การขายส่ง/ขายปลีก และสาขาการขนส่ง/เก็บสินค้า



          ด้านสาขาก่อสร้าง และสาขาโรงแรม/ภัตตาคาร จ้างงานลดลงร้อยละ 1.1 ส่วนหนึ่งเกิดจากการระบาดโควิดที่รุนแรงขึ้นในไตรมาสหนึ่ง ปี 2565 ประกอบกับนักท่องเที่ยวต่างชาติยังมีจำนวนไม่มาก โดยมีเพียง 5 แสนคน จากปกติที่มี 9 - 10 ล้านคน



          ประเด็นที่ต้องติดตามในระยะถัดไป

          1. การฟื้นตัวของการจ้างงานภาคท่องเที่ยว โดยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติยังมีจำนวนไม่มากเมื่อเทียบกับก่อนโควิด ขณะที่นักท่องเที่ยวไทยแม้จะมีแนวโน้มดีขึ้นจากโครงการกระตุ้นการท่องเที่ยวของภาครัฐ แต่สัดส่วนรายจ่ายยังไม่สามารถชดเชยการหายไปของรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ จึงต้องให้ความสำคัญกับการเปิดประเทศและดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศให้มากที่สุด

          2.ผลกระทบของการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าต่อค่าครองชีพของแรงงาน และการจ้างงาน เงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่ปลายปี 2564 จากราคาน้ำมัน และปัจจัยการผลิตในสินค้าบางชนิดที่เพิ่มขึ้น จะส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพของแรงงาน รวมทั้งอาจกระทบต่อการจ้างงานในภาคเกษตรกรรมจากราคาปุ๋ยที่แพงขึ้น และการจ้างงานสาขาขนส่งจากต้นทุนราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น

          3. การหามาตรการแก้ไขปัญหาการว่างงานระยะยาวและการว่างงานของผู้จบการศึกษาใหม่ ที่ยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง



 



#ว่างงาน



#สภาพัฒน์

ข่าวทั้งหมด

X