ชาวบราซิลร่วมการเดินขบวนครั้งใหญ่เพื่อขับไล่ประธานาธิบดี

ชาวบราซิลมากกว่า 1 ล้านคนร่วมการเดินขบวนครั้งใหญ่ เพื่อต่อต้านประธานาธิบดีดิลมา รูสเซฟฟ์ แห่งบราซิล ซึ่งสืบเนื่องมาจากการทุจริตภายในบริษัทพลังงานเปโตรบาสที่เป็นของรัฐ และประชาชนต้องการให้มีการลงมติเพื่อถอดถอนออกจากตำแหน่งเพราะเชื่อว่าประธานาธิบดีรับรู้การทุจริตที่เกิดขึ้น และฝ่ายค้านระบุว่า มีการทุจริตเกิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อครั้งที่ประธานาธิบดีรูสเซฟฟ์เป็นผู้บริหารระดับสูงของบริษัท สร้างความเสียหายมากกว่า 3,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ในการดำเนินคดีนั้น แม้ประธานาธิบดีจะไม่ได้ถูกสอบสวนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด แต่มีนักการเมืองหลายคนรวมทั้งคนใกล้ชิดของประธานาธิบดีและอดีตผู้บริหารของบริษัท ที่ถูกสอบสวน

ทั้งนี้ประธานาธิบดีรุสเซฟฟ์ ดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศเป็นสมัยที่ 2 ได้ไม่ถึง 6 เดือน แต่ก็ต้องเผชิญกับการชุมนุมใหญ่อีกครั้ง จุดที่มีผู้เข้าร่วมการชุมนุมมากที่สุดคือนครเซาท์เปาโลที่มีผู้ร่วมการชุมนุมมากกว่า 5 แสนคน และเมืองนี้ยังเป็นฐานเสียงของฝ่ายต่อต้านประธานาธิบดีรูสเซฟฟ์ ขณะที่ยังมีการชุมนุมอีก 83 แห่งใน 22 รัฐรวมถึงการชุมนุมใหญ่ในกรุงบราซิเลียที่มีผู้ร่วมการชุมนุม 40,000 คน แต่นายโฮเซ่ เอดูอาร์โด คาร์โดโซ่ รัฐมนตรียุติธรรมบราซิล เห็นว่าการชุมนุมที่เกิดขึ้นเป็นการแสดงออกตามกระบวนการประชาธิปไตย

โดยเมื่อเดือนมิถุนายน 2556 ชาวบราซิลนับล้านคนร่วมการชุมนุมเพื่อต่อต้านการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก เพราะมีการใช้งบประมาณมหาศาล ทั้งมีปัญหาการทุจริตคอรัปชั่น โดยต้องการให้นำงบประมาณไปใช้ด้านการขนส่ง สุขอนามัย และ การศึกษา

...