*นายกฯประชุมคกก.เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ/สปช.รับทราบความคืบหน้าร่างรัฐธรรมนูญ/เตรียมฝากขัง4ผตห.ปาระเบิด*

บ่ายวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ครั้งที่ 2/2558 โดยจะแต่งตั้งคณะอนุกรรมการทำงานเพิ่มอีก 4 ชุด

ขณะที่นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ

และนายอูริช ซาเกา (Mr. Ulrich Zachau) ผู้อำนวยการธนาคารโลกประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เข้าเยี่ยมคารวะ หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล

ส่วนที่รัฐสภา ในวันนี้ มีการประชุมกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ และการประชุมสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ตามที่นายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธาน สปช. มีคำสั่งนัดสมาชิกประชุมในเวลา 11.00 น. เพื่อรับทราบรายงานความคืบหน้าของคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ จากนั้นมีวาระพิจารณารายงานของคณะกรรมาธิการปฏิรูปวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิจัย นวัตกรรม และทรัพย์สินทางปัญญา เรื่อง วาระการขับเคลื่อนของสภาปฏิรูปแห่งชาติ : ระบบการศึกษา การพัฒนาคุณภาพคน วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และปัญญาของประเทศ วาระที่ 20 ระบบวิจัยเพื่อโครงสร้างพื้นฐานทางปัญญาของประเทศ วาระที่ 21 ระบบวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อโครงสร้างพื้นฐานทางนวัตกรรมของประเทศ (ระยะที่ 1 ระดับหลักการและสาระสำคัญ) และให้งดการประชุมในวันอังคารที่ 17 มีนาคม เพื่อให้สมาชิกทำหน้าที่ในฐานะกรรมาธิการปฏิรูปด้านต่างๆ ได้อย่างเต็มที่

ส่วนคณะโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะประชุมร่วมกับโฆษกกระทรวงต่างๆ เพื่อเตรียมการแถลงผลงานรัฐบาลครบ 6 เดือน ในวันที่ 10 เมษายนนี้ ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล โดยในการแถลงผลงาน พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะเป็นผู้แถลงหลักภาพรวม ส่วนรองนายกรัฐมนตรี 5 คนอาจตอบข้อซักถามในบางประเด็น ขณะที่แต่ละกระทรวงจะมีการแถลงผลงานของตัวเองก่อนถึงวันแถลงผลงานรวมโดยนายกรัฐมนตรี

ส่วนกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดในคดีถอดถอนอดีต ส.ส. 250 คน ที่มีส่วนร่วมในการแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มาส.ว.  ซึ่งนพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ โฆษกคณะกรรมาธิการกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เปิดเผยว่า ต้องรอสำนวนคดีที่ ป.ป.ช.จะส่งให้ สนช.พิจารณาอย่างเป็นทางการก่อน จากนั้นนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช.จะบรรจุในเข้าระเบียบวาระการประชุมเป็นเรื่องด่วนภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับเอกสารและความเห็นจาก ป.ป.ช. เพื่อกำหนดวันแถลงเปิดคดี

ด้านนายกันตภณ สุขุมาลินทร์ แกนนำ กปปส. จ.ชลบุรี จะเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษกับพล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้ดำเนินคดีกับนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. ที่เป็นผู้สั่งการนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง ล้มประชุมอาเซียน ที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2552 และศาลจังหวัดพัทยาตัดสินจำคุก 15 แกนนำเสื้อแดง เป็นเวลา 4 ปี โดยไม่รอลงอาญา โดยจะนำหลักฐานเป็นคำปราศรัยของทั้งนายณัฐวุฒิ และนายอริสมันต์ ไปมอบให้ตำรวจด้วย

ยังมี พญ.ประชุมพร บูรณ์เจริญ ที่ปรึกษาสมาพันธ์แพทย์โรงพยาบาลศูนย์โรงพยาบาลทั่วไป (สพศท.) และแพทย์ประจำโรงพยาบาลสุรินทร์ เตรียมยื่นหนังสือต่อ พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี เพื่อขอความเป็นธรรมกรณีคำสั่งย้าย นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวน ซึ่งเดิมกำหนดไปยื่นหนังสือในวันนี้ แต่เลื่อนไปเป็นการยื่นหนังสือภายในสัปดาห์นี้ และยืนยันว่า จะไม่ก่อความเดือดร้อนหรือสร้างม็อบหมออย่างที่หลายคนกล่าวอ้าง โดยเห็นว่า รัฐบาลต้องเร่งตรวจสอบและคืนความเป็นธรรมให้กับข้าราชการคนหนึ่ง ส่วนเรื่องการแต่งชุดดำจะเป็นไปตามความสมัครใจ

ส่วนความคืบหน้าเหตุคนร้ายปาระเบิดศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก โดยในกรณีที่หนึ่งในผู้ต้องหาเปิดเผยว่า มีการเตรียมก่อเหตุโจมตีหลายแห่งเมื่อวานนี้ พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้รับรายงานจากหน่วยงานความมั่นคงมาระยะหนึ่งแล้วและขอประชาชนอย่าตื่นตระหนกและให้ช่วยกันเป็นหูเป็นตาให้กับเจ้าหน้าที่รัฐ อย่าตกเป็นเครื่องมือของผู้ไม่หวังดี

ด้านพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ขอให้ประชาชนมั่นใจว่าฝ่ายความมั่นคงจะดูแลเต็มที่ ทั้งขอความร่วมมือประชาชนหากพบสิ่งผิดปกติสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ได้ ส่วนข่าวลือที่มีการเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ก็เป็นเพียงข่าวลือ ซึ่งขณะนี้รู้ตัวคนปล่อยข่าวแล้ว

และพล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้ประชาชนรับทราบข่าวสารจากสื่อกระแสหลักทั้งโทรทัศน์ วิทยุ และหนังสือพิมพ์ เพราะสื่อสังคมออนไลน์ไม่สามารถตรวจสอบความเป็นจริงได้ ทางที่ดีคือต้องไม่ส่งต่อข้อมูลลักษณะนี้

โดยเมื่อวานนี้ พ.อ.วิจารณ์ จดแตง ผู้อำนวยการงานกฎหมายและสิทธิมนุษยชน กอ.รมน. ควบคุมตัว 4 ผู้ต้องหาคดีปาระเบิดศาลอาญา ประกอบด้วย นายสรรเสริญ หรือสัน ศรีอุ่นเรือน นายชาญวิทย์ จริยานุกูล นายวิชัย อยู่สุข และนายนรภัทร เหลือผล ไปที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อส่งมอบให้พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. หลังจากครบกำหนด ควบคุมตัว 7 วัน ตามพ.ร.บ.กฎอัยการศึก จากนั้นร่วมกันควบคุมตัวผู้ต้องหาไป ยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เพื่อส่งมอบตัวผู้ต้องหาให้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. สอบสวนเบื้องต้น แจ้งข้อกล่าวหา และพิมพ์มือทำประวัติ โดยมีทนายความร่วมสังเกตการณ์ด้วยตลอดเวลา และจะนำตัวฝากขังต่อศาลทหารในวันนี้

พล.ต.อ.สมยศเปิดเผยว่า ขณะนี้ออกหมายจับผู้ต้องหาในขบวนการนี้ไปแล้ว 14 คน ประกอบด้วย 1.นายมหาหิน ขุนทอง 2.นายยุทธนา เย็นภิญโญ 3.นายณัฏฐ์พัชร์ อ่อนมิ่ง 4.นายธัชพรรณ ปกครอง ซึ่งทหารส่งตัวให้พนักงานสอบสวนฝากขังศาลทหารไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 13 มี.ค. ที่ผ่านมา

5.นายสรรเสริญ 6.นายชาญวิทย์ 7.นายวิชัย และ 8.นายนรภัทร ซึ่งทหารส่งมอบตัวให้เมื่อวาน

9.นายณเรศ อินทรโสภา 10.นายเจษฎาพงษ์ วัฒนพรชัยสิริ อายุ 44 ปี 11.นางสุภาพร หรือเดียร์ มิตรอารักษ์ อายุ 49 ปี 12.นางวาสนา บุษดี 13.นายมนูญ ชัยชนะ หรือเอนก ซานฟราน และ 14.นายวิระศักดิ์ โตวังจร หรือใหญ่ พัทยา โดยขณะนี้จับกุมได้แล้ว 12 คน ยังเหลือนายวิระศักดิ์ และนายมนูญ หรืออเนก ซานฟราน ที่ยังหลบหนีอยู่  ซึ่งในจำนวนนี้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาก่อการร้ายอั้งยี่ ซ่องโจร แก่ผู้ต้องหา 5 คน คือ นายมนูญ, นายนรภัทร, นายเจษฎาพงษ์, นางสุภาพร และนางวาสนา

สำหรับนายมนูญนอกจากข้อหาก่อการร้ายแล้ว ยังมีความผิดฐานขัดหมายเรียก คสช. และมีหมายจับความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ฐานหมิ่นสถาบันฯ กรณีนายมนูญอยู่ในต่างประเทศ จะดำเนินการขอตัวส่งผู้ร้ายข้ามแดนตามกระบวนการต่อไป ในส่วนนายวิระศักดิ์นั้นมีความผิดฐานขัดหมายเรียก คสช. เช่นกัน ขณะนี้กำลังสืบสวนตามจับกุมอยู่ และคาดว่า ยังอยู่ในประเทศไทย

*-*