ดัชนีดาวโจนส์ ร่วงลงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด เมื่อ 21.06 น.ทรุดตัวลงกว่า 400 จุด โดยปรับตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 4 วัน ขณะที่นักลงทุนกังวลว่าภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐเริ่มส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 32,202.32 จุด ลบ 452.27 จุด
หุ้นกลุ่มค้าปลีกเปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวัง โดยถูกกระทบจากต้นทุนเชื้อเพลิงที่พุ่งขึ้น ทำให้ค่าใช้จ่ายด้านการขนส่งเพิ่มขึ้น และเป็นการบ่งชี้ว่าภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐเริ่มส่งผลกระทบต่อกำไรของภาคธุรกิจ ราคาหุ้นทาร์เก็ต ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐ ดิ่งลงเกือบ 25% ในวันนี้ หลังเปิดเผยตัวเลขกำไรในไตรมาสแรกต่ำกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทถูกกดดันในวันนี้ หลังจากที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยืนยันว่า เฟดจะไม่ลังเลในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนกว่าจะสามารถควบคุมเงินเฟ้อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ
นักลงทุนให้น้ำหนัก 100% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 0.50% ในการประชุมนโยบายการเงินอีก 2 ครั้ง ทั้งในเดือนมิ.ย.และก.ค. หลังจากที่เฟดเพิ่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนพ.ค. เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2543 และเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่า 20 ปี เฟดเตรียมปรับลดขนาดงบดุล (Quantitative Tightening : QT) โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนมิ.ย. ซึ่งเฟดจะลดขนาดงบดุลในวงเงิน 4.75 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน และหลังจากนั้น 3 เดือน เฟดจะเพิ่มการลดขนาดงบดุลเป็น 9.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน
#เฟดขึ้นดอกเบี้ย
#ดาวโจนส์ร่วง