ผู้นำสหรัฐฯประณามกลุ่มชาตินิยมผิวขาว สร้างความแตกแยก ต้นเหตุกราดยิงในเมืองบัฟฟาโล

          ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ พร้อมนางจิล ไบเดน ภริยาได้ไปตรวจเยี่ยมจุดเกิดเหตุที่คนร้ายคือนายเพย์ตัน แกรนดอน ชายผิวขาววัย 18 ปี ก่อเหตุกราดยิงคนในร้านซูเปอร์มาร์เก็ตในย่านชุมชนคนผิวดำในเมืองบัฟฟาโล รัฐนิวยอร์กเมื่อวันเสาร์ที่แล้ว ทำให้ชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันเสียชีวิต 10 ราย ผลการสอบสวนเกิดจากแนวคิดความเกลียดชังทางเชื้อชาติ โดยนายไบเดน พร้อมภริยาได้วางพวงหรีดไว้อาลัยผู้เสียชีวิต บริเวณด้านนอกของซูเปอร์มาร์เก็ตจุดเกิดเหตุ

          นอกจากนั้น ผู้นำสหรัฐฯ ยังกล่าวประณามกลุ่มชาตินิยมผิวขาวว่าเป็นภัยสังคม นับเป็นการก่อการร้ายในประเทศ โดยเสนอให้สภาคองเกรสผ่านฎหมายที่เข้มขวดมากขึ้น ในเรื่องการครอบครองปืนไรเฟิลซึ่งเป็นอาวุธร้ายแรง นอกจากนี้ นายไบเดนถึงกับหลั่งน้ำตา เมื่อพบว่า 1 ในผู้เสียชีวิต คือ นายอันเดร แม็คนีล อายุ 53 ปี ที่ในวันเกิดเหตุ อยู่ระหว่างซื้อเค้กวันเกิดให้กับลูกชายวัย 3 ขวบ

          นายไบเดน เปรียบเทียบกลุ่มชาตินิยมผิวขาวเสมือนยาพิษ ที่เข้ามามีบทบาททางการเมืองในสหรัฐฯ และจะทำให้การเมืองของสหรัฐฯเสียหายทั้งระบบในที่สุด พร้อมตำหนินักการเมืองบางคนที่ใช้ประเด็นปัญหาความแตกแยกทางเชื้อชาติของคนในชาติ แพร่ข่าวเท็จ เพื่อหวังผลคือ ตำแหน่งทางการเมือง ในประเด็นนี้ หลายฝ่ายมองว่านายไบเดนไม่เพียงแต่ตำหนิคนร้ายเท่านั้น หากแต่ต้องการจะพาดพิงโดยอ้อมถึงนักการเมืองจากพรรครีพับลิกัน ซึ่งมีนโยบายสนับสนุนการครอบครองอาวุธปืน

           นายไบเดนได้พูดคุยเป็นการส่วนตัวกับครอบครัวผู้ตายและหน่วยกู้ภัยท้องถิ่นด้วย ส่วนความคืบหน้าทางคดี ตำรวจระบุว่าข้อมูลต่างๆที่คนร้ายโพสต์ทางสื่อออนไลน์ ระบุว่า คนร้ายวางแผนมาหลายเดือน พร้อมทั้งไปดูลาดเลาสถานที่ที่เขาจะลงมือก่อเหตุมาหลายครั้ง

#สหรัฐฯ

#เหตุสังหารหมู่ในเมืองบัฟฟาโล