รมว.คลัง ชี้แจง ลดภาษีน้ำมันดีเซล 5 บาท สูญรายได้ 2หมื่นล้าน หากน้ำมันลด ใช้กองทุนน้ำมันพยุง

          หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นชอบปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลงลิตรละ 5 บาท เป็นระยะเวลา 2 เดือน ตั้งแต่วันที่ 21 พ.ค.65 ถึงวันที่ 20 ก.ค.65 เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนและภาคธุรกิจในช่วงที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยว่า การใช้มาตรการภาษีดังกล่าวเป็นเพียงมาตรการในระยะสั้น และถ้าหากสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเริ่มคลี่คลาย รัฐบาลยังคงใช้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นกลไกหลักในการรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลเพื่อไม่ให้กระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนและเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศต่อไป โดยในการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลในครั้งนี้ ส่งผลให้ภาครัฐสูญเสียรายได้ประมาณ 20,000 ล้านบาท

         การขยายระยะเวลาลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลครั้งนี้ เป็นการต่ออายุ เนื่องจาก มาตรการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล 3 บาทต่อลิตร ที่บังคับใช้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 18 ก.พ.65 จะสิ้นสุดลงในวันที่ 20 พ.ค.65 แต่เนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกผันผวนและปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับ ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงส่งผลกระทบต่อต้นทุนการนำเข้าน้ำมันดิบ ทำให้ไม่สามารถตรึงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไม่ให้เกินลิตรละ 30 บาท ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง ดังนั้น จำเป็นต้องใช้มาตรการทางภาษีมาช่วยลดระดับราคาขายปลีกของน้ำมันดีเซลไม่ให้สูงจนกระทบต่อภาระค่าครองชีพและการฟื้นฟูเศรษฐกิจ เนื่องจาก น้ำมันดีเซลเป็นต้นทุนการผลิตของทุกภาคอุตสาหกรรม

#ลดภาษีน้ำมันดีเซล

แฟ้มภาพ