อาเซียน-สหรัฐฯ ออกแถลงการณ์วิสัยทัศน์ร่วม โดยหลีกเลี่ยงการระบุชื่อ 'รัสเซีย'

          ผู้นำประเทศสมาชิกประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ อาเซียน และสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์แสดงวิสัยทัศน์ร่วม (Joint Vision Statement) เนื่องในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน-สหรัฐฯ (US – ASEAN Summit) ณ กรุงวอชิงตัน ระหว่างวันที่ 12-13 พฤษภาคม ซึ่งเป็นการประชุมครั้งแรกที่จัดขึ้นที่กรุงวอชิงตัน สมัยพิเศษในโอกาสเฉลิมฉลอง 45 ปีของความสัมพันธ์สหรัฐฯ-อาเซียน และเสริมสร้างบทบาทของอาเซียนในการนำเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาที่ยั่งยืนต่อความท้าทายเร่งด่วนที่สุดของภูมิภาคในหลายด้าน  ทั้งเป็นการสะท้อนท่าทีของสหรัฐฯ ในการสร้างความเชื่อมั่นว่าอาเซียนยังมีความสำคัญต่อสหรัฐฯ

          ในแถลงการณ์ ระบุถึงความร่วมมือในการต่อสู้กับการระบาดของโควิด-19 การสร้างความมั่นคงด้านสาธารณสุขร่วมกัน และการฟื้นฟูหลังการระบาดร่วมกัน

          ในประเด็นด้านความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ ทั้งสองฝ่ายตกลงทำงานร่วมกันเพื่อสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน รวมถึงการปฏิบัติตามการจัดการกรอบการค้าและการลงทุนอาเซียน – สหรัฐฯ (ASEAN-U.S. Trade and Investment Framework Arrangement) และ แผนปฏิบัติการโครงการความร่วมมือทางเศรษฐกิจแบบขยาย (Expanded Economic Engagement Initiatives Workplan) โดยสหรัฐฯ จะมีส่วนร่วมมากขึ้นในภูมิภาคนี้

         นอกจากนี้ ยังตกลงสานต่อความร่วมมือเพื่อสนับสนุนการค้าและการลงทุน และการสนับสนุนห่วงโซ่อุปทานของโลก รวมทั้งการเชื่อมโยงในภูมิภาคในด้านต่าง ๆ รวมถึงการกระจายสินค้าและบริการ การแพทย์และเทคโนโลยี การคมนาคมทั้งทางบก ทางทะเลและทางอากาศ ตลอดจนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านสาธารณูปโภคเพื่อรองรับเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น รถยนต์ไฟฟ้าสำหรับประเด็นภูมิรัฐศาสตร์โลก

          อย่างไรก็ตาม มีการตั้งข้อสังเกตว่า แถลงการณ์ในครั้งนี้ไม่ได้กล่าวถึงรัสเซีย แม้ว่าจะเป็นประเด็นที่ทำให้ทำเนียบขาวต้องจัดการประชุมกับอาเซียน และมีการระบุชื่อประเทศยูเครนในตอนท้ายของแถลงการณ์ ซึ่งระบุว่า "จะเปิดทางให้ชาวยูเครนที่ต้องการความช่วยเหลือได้รับความช่วยเหลือ และเรียกร้องหยุดใช้ความรุนแรงรวมถึงหาทางออกอย่างสันติ"

          และมีการกล่าวถึงเกาหลีเหนือ ในลักษณะที่เป็นการเรียกร้องให้ปฏิบัติตามมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ

          ในแถลงการณ์ยังมีการแสดงความกังวลต่อวิกฤตในเมียนมา และเรียกร้องให้เมียนมาทำตามฉันทามติ 5 ข้อของอาเซียนที่มีข้อตกลงเมื่อวันที่ 24 เมษายนปีที่แล้ว (2564) แต่การประชุมในครั้งนี้ ไม่มีผู้แทนจากรัฐบาลเมียนมาเข้าร่วมประชุมโดยเป็นการเว้นว่างเก้าอี้ของเมียนมาไว้ในระหว่างการประชุม

...

#สหรัฐฯอาเซียน

#VOA