รวบพ่อค้าสัตว์ป่าคุ้มครองที่นครราชสีมา พบทั้งลูกเสือ, ลูกนกหวงห้าม มีโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี

14 พฤษภาคม 2565, 08:07น.


          ศูนย์ปราบปรามการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปทส.ตร.) ร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยการจับกุมผู้ต้องหาครอบครอง และค้าสัตว์ป่าคุ้มครอง ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา พบหลักฐานสำคัญ ทั้งลูกเสือ และลูกนกหวงห้าม 





          พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. ผอ.ศปทส.ตร กล่าวว่า ได้รับข้อมูลว่ามีกลุ่มนายทุนลักลอบค้าเสือ และนกหวงห้ามจำพวกนกกาฮัง และนกกรามช้าง ซึ่งล่ามาจากป่าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ โดยกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) สืบสวนร่วมกับชุดเหยี่ยวดง กรมอุทยานแห่งชาติฯ โดยได้รับการสนับสนุนข้อมูลการสืบสวนจากมูลนิธิฟรีแลนด์ จนทราบว่าจะมีการขายลูกเสือและลูกนกกาฮัง ลูกนกกรามช้าง ในบริเวณที่เกิดเหตุซึ่งเคยขออนุญาตประกอบกิจการสวนสัตว์ เมื่อปี พ.ศ. 2557 แต่ขาดต่อใบอนุญาตเมื่อปี พ.ศ.2562 โดยมีนายเคียง (สงวนนามสกุล) เป็นเจ้าของสถานที่ และเป็นผู้ขายสัตว์ป่า





          ทั้งนี้ นายเคียงฯ เสนอขายลูกเสือ อายุประมาณ 3 เดือน จำนวน 2 ตัวๆ ละ 400,000 บาท และนกกาฮัง 6 ตัว และนกกรามช้าง จำนวน 2 ตัวๆละ 20,000 บาท มูลค่ารวมกันทั้งสิ้นประมาณ 460,000 บาท เจ้าหน้าที่นำตัวผู้ต้องหา พร้อมด้วยของกลางส่ง พงส.สภ.โนนสูง จ.นครราชสีมา เพื่อสอบสวนดำเนินคดีต่อไป



          โดยมีความผิดตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 มาตรา 17 ในข้อหาร่วมกันมีสัตว์ป่าคุ้มครองและซากของสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากอธิบดี อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ



          และมาตรา 29 ในข้อหาร่วมกันค้าสัตว์ป่าคุ้มครองและซากของสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากอธิบดีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ



          หากพบพยานหลักฐานว่ามีการนำสัตว์ป่า ซึ่งเป็นสัตว์ควบคุมลักลอบเข้ามาจากต่างประเทศอาจเป็นความผิดในข้อหา นำเข้าซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครอง สัตว์ป่าควบคุม (สัตว์ไซเตส) ชากสัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต อัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 23



          สำหรับสัตว์ป่าคุ้มครอง ซึ่งได้แก่นกกาฮัง (หรือนกกก หรือนกกะวะ เป็นนกเงือกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในกลุ่มนกเงือก 13 ชนิดที่มีอยู่ในประเทศไทย) จำนวน 6 ตัว, นกกรามช้าง (หรือนกเงือกกรามช้าง) จำนวน 2 ตัว และลูกเสือโคร่ง จำนวน 2 ตัว  ขออนุมัติพนักงานสอบสวนรับไปส่งมอบให้สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 7 (นครราชสีมา) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชดูแลและเก็บรักษาจนกว่าคดีจะถึงที่สุดต่อไป



....



#กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช



#ค้าสัตว์ป่าคุ้มครอง



 

ข่าวทั้งหมด

X