นายซิฮาร์ด ฮัดโจปัน โปหัน เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากกระทรวงการค้าของอินโดนีเซียระบุในแถลงการณ์ว่า อินโดนีเซียได้ยึดเรือสินค้าลำหนึ่ง ขณะบรรทุกน้ำมันปาล์มราว 81,000 ลิตร มุ่งหน้าไปที่ติมอร์ตะวันออก ละเมิดมาตรการของอินโดนีเซียเรื่องการห้ามส่งออกน้ำมันปาล์มดิบและส่วนประกอบอื่นๆจากน้ำมันปาล์ม รวมทั้งน้ำมันปรุงอาหาร
ที่ผ่านมา อินโดนีเซียได้ยึดเรือสินค้า ซึ่งบรรทุกน้ำมันปาล์ม น้ำมันปรุงอาหารและสินค้าอื่นๆรวม 8 ลำ ได้ที่ท่าเรือตันจุง เปรัค เมืองสุราบายา เกาะชวา นับแต่อินโดนีเซียห้ามส่งออกน้ำมันปาล์มไปต่างแดนตั้งแต่เมื่อวันที่ 28 เมษายน ระบุว่า ผู้ส่งออกสินค้าทางเรือดังกล่าวไม่ได้ระบุน้ำมันปรุงอาหารไว้ในเอกสารแสดงรายการสินค้าส่งออกอย่างชัดเจน เข้าข่ายละเมิดคำสั่งห้ามส่งออกน้ำมันปาล์มของอินโดนีเซีย
แต่เจ้าหน้าที่อินโดนีเซียไม่ได้เปิดเผยชื่อเรือหรือเจ้าของเรือสินค้าให้สาธารณชนทราบ สำหรับคนที่ฝ่าฝืนมาตรการห้ามส่งออกน้ำมันปาล์มจะมีโทษสูงสุดคือ จำคุก 5 ปี และปรับ 5,000 ล้านรูเปียห์หรือ 11,860,597 บาท
ก่อนหน้านี้ อินโดนีเซีย ผู้ผลิตน้ำมันปาล์มรายใหญ่ที่สุดของโลก มีคำสั่งเมื่อเดือนที่แล้ว ห้ามส่งออกน้ำมันปาล์มดิบและผลิตภัณฑ์จากน้ำมันปาล์มที่แปรรูปแล้ว เพื่อควบคุมราคาน้ำมันปรุงอาหารในประเทศไม่ให้มีราคาสูงเกิน 14,000 รูเปียห์ หรือ 33.68 บาทต่อลิตร ในปัจจุบัน ร้านค้าหลายแห่งในกรุงจาการ์ตา ขายน้ำมันปรุงอาหารสูงกว่าราคาควบคุม โดยขาย 18,491 รูเปียห์ หรือ 43.90 บาทต่อลิตร
#อินโดนีเซีย
#ยึดเรือบรรทุกน้ำมันปรุงอาหาร
#คุมราคาสินค้า