ผลวิจัยระบุ ผ่านไป 2 ปีผู้ป่วยโควิดกลุ่มแรกในอู่ฮั่นยังมีอาการลองโควิด

          นักวิจัยจากเมืองอู่ฮั่นและกรุงปักกิ่ง จีน เผยแพร่งานวิจัยเกี่ยวกับอาการลองโควิดในเดอะแลนเซ็ต (The Lancet) พบว่า มากกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มแรกที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลที่เมืองอู่ฮั่นเมื่อ 2 ปีก่อน ยังมีอาการลองโควิด ที่ได้แก่อาการเหนื่อยหอบ มีภาวะการนอนหลับยาก มีความเหนื่อยล้า ความวิตกกังวล และความสามารถของปอดบกพร่อง ซึ่งจะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นตามอายุ

          ผู้วิจัยยอมรับว่าเป็นไปได้ยากที่ผู้ป่วยในระลอกแรกจะกลับมามีสุขภาพเหมือนเดิม เพราะแม้จะหายป่วยแล้วแต่ก็ยังมีสุขภาพอ่อนแอกว่าคนทั่วไป และจำเป็นต้องได้รับการดูแลใกล้ชิด การรับมือกับอาการลองโควิด คือ ความท้าทายครั้งใหญ่ของระบบสาธารณสุข เนื่องจากโควิด-19 มีผู้ป่วยสะสมหลายล้านคน ซึ่งเป็นเด็กและวัยรุ่นจำนวนมาก และพวกเขาต้องอยู่กับอาการลองโควิดนี้เป็นเวลานาน

          โดยในการวิจัยจากผู้ป่วยโควิด-19 ที่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลจินหยินถัน เมืองอู่ฮั่นเมื่อต้นปี 2563 มีผู้ป่วย 1,192 คน ที่มีอาการลองโควิด อายุเฉลี่ยของกลุ่มตัวอย่างคือ 57 ปี มากกว่าครึ่งหนึ่งเป็นชาย ในการวิจัย จะให้กลุ่มตัวอย่างเดินเป็นเวลา 6 นาที ก่อนที่จะเข้ารับการตรวจในห้องปฏิบัติการ และตอบคำถามเกี่ยวกับอาการต่าง ๆ สุขภาพจิต และคุณภาพชีวิต โดยมีบางคนที่จะได้รับการตรวจการทำงานของปอด และมีการเอกซเรย์ทรวงอกเพิ่มเติม

          โดยทั่วไป ผู้ที่หายป่วยแล้วจะมีสุขภาพร่างกายและจิตใจดีขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป ผู้เข้าร่วมงานวิจัยเกือบร้อยละ 90 สามารถกลับมาทำงานเดิมได้ หลังจากผ่านไป 2 ปี

          กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 68 ระบุว่า มีอาการลองโควิดอย่างน้อยหนึ่งอาการที่จะหายไปเมื่อเวลาผ่านไป 6 เดือน

          และร้อยละ 55 ที่ระบุว่า พวกเขายังมีอาการลองโควิดอยู่เมื่อผ่านไป 2 ปี

          นอกจากนี้ ผู้ป่วยโควิด-19 มีแนวโน้มที่จะรายงานอาการปวดข้อ ใจสั่น เวียนศีรษะ และปวดศีรษะมากกว่าผู้ที่ไม่ติดเชื้อ

....

#จีน

#ลองโควิด