สหรัฐฯ ต้องการให้ผู้นำอาเซียนเพิ่มบทบาททางการทูตแก้ไขปัญหาเมียนมา

12 พฤษภาคม 2565, 07:35น.


          นายเคิร์ต แคมป์เบลล์ ผู้ประสานงานด้านอินโด-แปซิฟิกของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดี โจ ไบเดน จะส่งเสริมการทูตในเมียนมาในการพบปะกับผู้นำประเทศของสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียน ที่กรุงวอชิงตันในวันพฤหัสบดี (12 พ.ค.) และวันศุกร์ (13 พ.ค.) นี้ โดยรัฐบาลสหรัฐฯ ต้องการให้อาเซียนเพิ่มบทบาทการมีส่วนร่วมมากขึ้นในความพยายามที่จะนำเมียนมากลับสู่เส้นทางประชาธิปไตย หลังจากที่มีการรัฐประหารในปีที่แล้ว (2564) โดยกลุ่มอาเซียน ห้ามรัฐบาลทหารของเมียนมาเข้าร่วมการประชุมสุดยอดจนกว่าจะเห็นความคืบหน้าในฉันทามติ 5 จุดที่มีข้อตกลงกันเมื่อปีที่แล้ว เพื่อยุติความรุนแรงที่เกิดขึ้น ซึ่งนายแคมป์เบลล์ เห็นว่า อาเซียนมีความริเริ่มที่สำคัญ รวมถึงการแต่งตั้งทูต แต่ก็ยังไม่เกิดผลสำเร็จ





          อย่างไรก็ตาม นายแคมป์เบลล์ ยอมรับคำวิพากษ์วิจารณ์ว่าสหรัฐฯ กับอาเซียนมีความร่วมมือลดลงในช่วงเวลาที่ผ่านมา แต่การประชุมกับผู้นำอาเซียนในครั้งนี้ จะเป็นการส่งสัญญาณว่าสหรัฐฯ จะเป็นพันธมิตรที่มั่นคงของอาเซียน โดยจะมีการเจรจาที่สำคัญเกี่ยวกับเทคโนโลยี การศึกษา โครงสร้างพื้นฐาน และในเร็วๆ นี้สหรัฐฯ จะประกาศแผนการที่จะต่อสู้กับการทำประมงผิดกฎหมายในมหาสมุทรแปซิฟิก



          นางเคท เรโบลซ์ รักษาการเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำอาเซียน กล่าวว่า การประชุมสุดยอดในครั้งนี้ จะนำมาซึ่งแถลงการณ์ที่แสดงถึงวิสัยทัศน์และความร่วมมือในอนาคตระหว่างสหรัฐฯ กับอาเซียน การริเริ่มใหม่ๆ รวมถึงการเป็นหุ้นส่วนในด้านสาธารณสุข สภาพภูมิอากาศ และการเติบโตทางเศรษฐกิจ



          ตามกำหนดการ ประธานาธิบดี ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ จะให้การต้อนรับผู้นำอาเซียนที่กรุงวอชิงตัน โดยจะมีผู้นำจาก 8 ประเทศเข้าร่วมการประชุมคือ ไม่มีผู้นำจากเมียนมา ส่วนฟิลิปปินส์กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านหลังการเลือกตั้ง ซึ่งผู้นำสหรัฐฯ จะพยายามแสดงให้เห็นว่าฝ่ายบริหารของเขายังคงให้ความสำคัญกับอินโดแปซิฟิกและความท้าทายจากจีน โดยจะมีงานเลี้ยงอาหารค่ำที่ทำเนียบขาวในวันพฤหัสบดี และจะมีการเจรจาที่กระทรวงการต่างประเทศในวันศุกร์ ร่วมด้วยนางจีน่า ไรมอนโด รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ, นางแคเธอรีน ไท่ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ และผู้นำธุรกิจของสหรัฐฯ 



...



#สหรัฐอเมริกา



#อาเซียน

ข่าวทั้งหมด

X