คืบหน้าการนับคะแนนของคณะกรรมการการเลือกตั้งฟิลิปปินส์ หลังการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันจันทร์ โดยคณะกรรมการเลือกตั้งนับเสร็จแล้วร้อยละ 98.30 ยังเหลืออีกเพียงเล็กน้อย ปรากฏว่า นายเฟอร์ดินันด์ “บงบง” มาร์กอส จูเนียร์ วัย 64 ปี ลูกชายอดีตประธานาธิบดีเฟอร์ดินันด์ มาร์กอส ผู้สมัครประธานาธิบดีจากพรรคสหพันธรัฐฟิลิปปินส์(PFP) คว้าอันดับที่หนึ่ง 31,087,850 คะแนน ทิ้งห่างผู้สมัครที่ได้คะแนนอันดับที่สองคือ นางเลนี โรเบรโด วัย 57 ปี รองประธานาธิบดีคนปัจจุบัน เกือบสองเท่า โดยนางโรเบรโด ได้เพียง 14,814,155 คะแนน นายวิค โรดิเกวซ โฆษกของนายมาร์กอส จูเนียร์ ระบุในแถลงการณ์ว่า นายมาร์กอส จูเนียร์ ประกาศชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดี และเขาจะขอทำหน้าที่เป็นผู้นำประเทศสำหรับชาวฟิลิปปินส์ทุกคน ทั้งคนที่ลงคะแนนให้ และคนที่ไม่ได้ลงคะแนนให้กับเขา พร้อมทั้งจะทำงานร่วมกับทุกพรรคการเมือง เพื่อแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวของคนทั่วประเทศ
แถลงการณ์ระบุอีกว่า เป็นชัยชนะสำหรับชาวฟิลิปปินส์ทุกคน และเป็นชัยชนะสำหรับการปกครองระบอบประชาธิปไตยของฟิลิปปินส์ นอกจากนี้ นายมาร์กอส จูเนียร์ ฝากบอกทุกคนว่า ขอให้ทุกคนตัดสินตนเองจากผลงานคือ การทำหน้าที่บริหารประเทศ เป็นเครื่องพิสูจน์ ไม่ใช่ตัดสินเรื่องต่างๆจากภูมิหลังบรรพบุรุษคือ อดีตประธานาธิบดีมาร์กอส ซึ่งถูกกล่าวหาคอร์รัปชั่นระหว่างการบริหารประเทศเกือบ 21 ปี ระหว่างปี 2508 ถึง 2529
ไม่กี่ชั่วโมงหลังประกาศชัยชนะในครั้งนี้ นายมาร์กอส จูเนียร์ ได้เดินทางไปยังหลุมฝังศพของบิดาที่สุสานวีรบุรุษแห่งชาติในกรุงมะนิลา เพื่อเคารพดวงวิญญาณของบิดา ซึ่งจากภาพถ่ายที่มีการโพสต์ทางสื่อออนไลน์ของนายมาร์กอส แสดงให้เห็นภาพของเขา ขณะยืนอยู่หน้าหลุมฝังศพของบิดา โค้งคำนับเคารพศพ และใช้มือขวาปาดน้ำตาด้วย
ก่อนหน้านี้ มีสิ่งบ่งชี้น้อยมากว่า นายมาร์กอส จูเนียร์ จะชนะการเลือกตั้งอย่างท่วมท้น หลังไม่ร่วมอภิปรายแสดงวิสัยทัศน์ทางโทรทัศน์กับผู้สมัครคนอื่นๆ อีกทั้งเลี่ยงการให้สัมภาษณ์ของสื่อ แต่เขาเน้นการหาเสียงแบบลงพื้นที่เคาะประตูบ้านทั่วทุกภาคของประเทศ พูดคุย หาเสียงกับชาวบ้านโดยตรง
#ฟิลิปปินส์
#มาร์กอสจูเนียร์ชนะ