องค์การอนามัยโลก เปิดเผยว่า พบผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบในเด็กที่ไม่ทราบสาเหตุสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 348 คนใน 20 ประเทศ และมีอีก 70 คนใน 13 ประเทศที่อยู่ในระหว่างการตรวจสอบยืนยัน โดยสันนิษฐานว่าจะมีความเกี่ยวข้องกับอะดีโนไวรัสและการติดเชื้อโควิด-19
ผลการศึกษาในเบื้องต้นพบว่า ร้อยละ 70 ของผู้ป่วยตรวจพบเชื้ออะดีโนไวรัส และมีอยู่ประมาณร้อยละ 18 ที่ติดเชื้อโควิด-19 หรือมีประวัติการติดเชื้อ
โดยมีอยู่ 6 ประเทศ ที่พบว่ามีผู้ป่วยมากกว่า 5 คน เฉพาะในสหราชอาณาจักรเพียงประเทศเดียวกับผู้ป่วยมากกว่า 160 คน และยังเป็นพื้นที่แรกที่พบผู้ป่วย คือเมื่อวันที่ 5 เมษายน (2565) มีการรายงานพบผู้ป่วยโรคตับอักเสบไม่ทราบสาเหตุจำนวน 10 คนเป็นเด็กอายุน้อยกว่า 10 ปีในสกอตแลนด์
นางฟิลิปปา อีสเตอร์บรูก จากโครงการโรคตับอักเสบ ขององค์การอนามัยโลก เปิดเผยในระหว่างการแถลงข่าวว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา การตรวจสอบสาเหตุการเกิดโรคมีความคืบหน้าที่สำคัญบางอย่าง จึงมีการปรับสมมติฐานการทำงานบางส่วน โดยสหราชอาณาจักรได้รายงานชุดการศึกษาที่ครอบคลุมเกี่ยวกับพันธุกรรมของผู้ป่วยเด็ก การตอบสนองทางภูมิคุ้มกันไวรัส และการศึกษาทางระบาดวิทยาเพิ่มเติม
ส่วนในสหรัฐอเมริกา ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐฯ มีผู้ป่วยสะสม 109 คน และมีผู้เสียชีวิต 5 ราย
อะดีโนไวรัส (Adenovirus) คือไวรัสที่ส่งผลให้เกิดโรคในหลายระบบของร่างกาย มีอาการได้ตั้งแต่เป็นไข้หวัด คออักเสบ หลอดลมอักเสบ ปอดอักเสบ ท้องเสีย ตาแดง ความรุนแรงมีได้ตั้งแต่น้อยจนถึงรุนแรงมาก พบอัตราการป่วยในเด็กมากกว่าผู้ใหญ่ โดยมีอาการรุนแรงในเด็กที่มีภาวะบกพร่องทางภูมิคุ้มกัน มีโรคประจำตัวในระบบทางเดินหายใจหรือระบบหัวใจที่ผิดปกติ
...
#องค์การอนามัยโลก
#ไวรัสตับอักเสบปริศนา