สถานการณ์น้ำเขื่อนแควน้อยบำรุงแดนและปัญหาภัยแล้งใน จ.พิษณุโลกที่นาย พลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ในฐานะประธานผู้ติดตามการตรวจเยี่ยมสถานการณ์ภัยแล้งของคณะกรรมการประสานงานเพื่อติดตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ หรือ กปร.ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมพร้อมกับหม่อมหลวง จิรพันธุ์ ทวีวงศ์ เลขาธิการ กปร.
นาย สมหวัง ปานสุขสาร ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน กล่าวว่า สถานการณ์น้ำในเขื่อนแควน้อยบำรุงแดนขณะนี้มีน้ำอยู่426 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 45ของความจุเขื่อนทั้งหมดที่สามารถกักเก็บได้ 939ล้านลูกบาศก์เมตร โดยมีน้ำที่ใช้ได้อยู่ 383ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งเขื่อนระบายน้ำออกวันละ 5ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งถือว่าน้อยกว่าปีที่แล้ว เนื่องจากปีนี้น้ำต้นทุนน้อย ทำให้ต้องลดการส่งน้ำ คาดการณ์ว่าเมื่อถึงวันที่ 1พฤษภาคม จะเหลือน้ำในเขื่อนอยู่ 278 ล้านลูกบาศก์เมตร
เขื่อนแควน้อยนอกจากเป็นเขื่อนในพระราชดำริแล้วเพื่อกักเก็บน้ำและบรรเทาอุทุกภัยแล้วยังเป็นแหล่งประมงขนาดใหญ่และเป็นแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัด นอกจากนี้ยังต้องสำรองน้ำไว้ เพื่อผลักดันน้ำเค็ม และสำรองน้ำไว้ใช้ยามฉุกเฉิน โดยจะมีการประเมินสถานการณ์น้ำเป็นระยะ รวมทั้งเขื่อนยังมีโครงการสร้างระบบระบายน้ำที่ค้างอยู่อีกเกือบครึ่งจากแผนงานเดิม โครงการดังกล่าวเป็นโครงการเดิมตั้งแต่ 8 ปีที่แล้ว แต่ยังก่อสร้างไม่เสร็จ เนื่องจากผู้รับเหมายกเลิกสัญญา โดยจะเร่งประสานงานหาผู้รับเหมารายใหม่มาจัดทำ ส่วนสถานการณ์ภัยแล้งขณะนี้ถือว่าน่าเป็นห่วง โดยได้ขอให้เกษตรกรห้ามทำนาปรัง เพื่อมีน้ำไว้อุปโภคบริโภค ซึ่งคณะทำงานโดยผู้ว่าราชการจังหวัดและกรมชลประทานได้ร่วมกันวางแผนรองรับเป็นระยะ โดยขณะนี้ขอให้เกษตรกรหันไปปลูกพืชชนิดอื่นทดแทนก่อน