การตรวจเยี่ยมการบริหารจัดการชุมชน เพื่อรับมือปัญหาภัยแล้งและอุทกภัยในจ.สุโขทัย ที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากและภัยแล้งเป็นประจำทุกปี ของคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริหรือ กปร. นำโดยนาย พลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรีและหม่อมหลวง จิรพันธุ์ ทวีวงศ์ เลขาธิการกปร. เพื่อรับทราบความคืบหน้าและหาทางแนวทางแก้ไขปัญหา นาย พลากร กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์น้ำในจ.สุโขทัยมาโดยตลอดพบว่า มักประสบปัญหาน้ำหลาก ทำให้เกิดน้ำท่วมในช่วงฤดูฝนมากว่าหลายสิบปี จนกลายเป็นพื้นที่ท่วมซ้ำซาก ส่งผลให้ประชาชนเดือดร้อนแม้ภาครัฐจะแก้ปัญหามาโดยตลอดแต่ก็พบว่ายังแก้ไขปัญหาได้ไม่หมด ส่วนตัวเข้าใจดีว่าปัญหานี้ต้องใช้ระยะเวลาแก้ไข เพราะเป็นปัญหาเรื้อรัง ซึ่งก็ไม่ได้เร่งรัดให้เห็นผลทันที แต่ ปัญหานี้ควรหมดไปนานแล้ว ควรมีแผนจัดการน้ำที่เป็นรูปธรรมและภายใน 5 ปีสุโขทัยต้องปลอดจากปัญหา พร้อมกำชับผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัยให้ประสานงานกับหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นและให้ส่งรายงานความคืบหน้าแผนการจัดการน้ำมาด้วย
ด้าน พ.ท. บดินทร์ เดชาเลิศ นายทหารฝ่ายกิจการพลเรือน กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยภายในราชอาณาจักรจังหวัดทหารบกพิษณุโลก ระบุว่า พื้นที่ที่มาตรวจในวันนี้คือประตูระบายน้ำปากน้ำ และคลองแม่น้ำเก่า อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย โดยพื้นที่ดังกล่าวจัดทำขึ้นตามความต้องการของประชาชนที่ต้องการนำน้ำจากแม่น้ำยมสายเก่ามาใช้ เนื่องจากพื้นที่ประตูระบายน้ำนี้ถูกทิ้งว่างเปล้ามานานเมื่อนำมาบูรณะใหม่ก็จะป้องกันปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากและภัยแล้งได้ โดยสามารถเป็นที่กักเก็บน้ำได้มากขึ้น ส่วนคลองแม่น้ำเก่าเมื่อขุดเสร็จก็สามารถเป็นที่เชื่อมต่อคลองและประตูระบายน้ำปากน้ำได้ ทำให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นด้วย
ส่วนสถานการณ์ภัยแล้งปัจจุบันของสุโขทัยมีการประกาศพื้นที่ประสบภัยแล้งเพียง 1 ตำบลน้อยกว่าปีที่แล้วที่มีถึง 9 อำเภอ และคาดว่าภัยแล้งปีนี้คงไม่รุนแรงมาก เนื่องจากอีกไม่ถึงสามเดือนก็จะเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว อย่างไรก็ดีได้ขอความร่วมมือจากเกษตรกรงดทำนาปรังเพื่อเก็บน้ำไว้ใช้อุปโภคบริโภคเป็นหลัก แต่ส่วนใหญ่แล้วในจังหวัด เกษตรกรมักปลูกพืชอื่นๆขาย เช่น พริก อ้อย ทำให้คาดว่าจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก