พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงผลการจับกุม นายบรรจง ลิ้นจี่ ผู้ต้องหาตามหมายจับข้อหา ลักทรัพย์ผู้อื่น ในคดีลักทรัพย์บ้านพัก ย่านห้วยขวาง ของนายจุฑาศิษฐ์ เมฆวงศ์ตระการ นายธนาคาร เมื่อวันที่ 16 เมษายน งัดตู้เซฟในบ้านพัก ขโมยทรัพย์สินไปหลายรายการ มูลค่ารวมกว่า 10 ล้านบาท หลังตำรวจฝ่ายสืบสวนนครบาล 1 และ สน.ห้วยขวาง จับกุมได้ที่คอนโดมิเนียม และที่พักย่านรัตนาธิเบศร์ จังหวัดนนทบุรี ภายในบริเวณบ้านนายจุฑาศิษฐ์ ไม่ได้ติดตั้งสัญญาณเตือนภัย หรือกล้องวงจรปิด ทำให้การติดตามคนร้ายเป็นไปได้ยาก ซึ่งหลังจากเกิดเหตุการณ์ขึ้น ก็ยังรู้สึกหวาดกลัว
จากการสอบสวน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ก่อเหตุจริง โดยตำรวจพบว่ามีความชำนาญในการก่อเหตุลักทรัพย์ ด้วยวิธีลงพื้นที่สำรวจก่อนว่าจะเลือกบ้านหลังใด น่าจะมีทรัพย์สินจำนวนมาก ก่อนทำแผนที่บ้านเป้าหมายไว้ประมาณ 15 หลัง เพื่อเตรียมการลักทรัพย์ในอนาคต เมื่อสบโอกาสที่ไม่มีคนอยู่บ้าน ส่วนทรัพย์สินที่ได้ไป ผู้ต้องหานำไปทยอยขายตามสถานที่ต่าง ๆ เพื่อเงินไปใช้จ่ายส่วนตัว และเล่นพนันออนไลน์
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สามารถยึดทรัพย์สินคืนมาได้บางส่วน เช่น เครื่องเพชร สร้อยคอทองคำ กำไลข้อมือทองคำ และธนบัตรเก่าที่สะสมเกือบ 100 รายการ มูลค่าประมาณ 5.9 ล้านบาท พร้อมอายัดเงินในบัญชีผู้ต้องหากว่า 1 ล้านบาท ซึ่งหลังจากนี้จะขยายผลติดตามทรัพย์สินที่เหลือ รวมถึงผู้ที่รับของโจร และให้การช่วยเหลือผู้ต้องหาในการหลบหนี
จากการตรวจสอบประวัติของนายบรรจง พบว่า เคยก่อคดีเกี่ยวกับทรัพย์มาแล้วหลายครั้งในหลายพื้นที่ นอกจากนี้ ยังมีคดีข่มขืนกระทำชำเราอีก 2 คดี เมื่อปี 2553 ซึ่งนายบรรจง ต้องโทษจำคุกรวม 6 ปี ก่อนที่จะพ้นโทษออกมา และมาก่อเหตุงัดตู้เซฟภายในบ้านพักของทนายความ ที่ซอยลาดพร้าว 48 พื้นที่สถานีตำรวจนครบาลสุทธิสาร เมื่อปี 2562 จากนั้นถูกจำคุกอีกครั้ง และเพิ่งจะพ้นโทษออกมา ก่อนมาก่อเหตุงัดตู้เซฟในครั้งนี้ ทำให้พนักงาานสอบสวน จะยื่นคำร้องต่อศาลให้เพิ่มโทษต่อไป
#งัดตู้เซฟ