คนไทยต้องอยู่กับสถานการณ์ราคาน้ำมันแพงต่อไปอีก ศ.ดร.พรายพล คุ้มทรัพย์ นักวิชาการด้านพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงาน ใช้กลไกกองทุนน้ำมันในการตรึงราคาน้ำมันดีเซลลิตรละ 32 บาท แต่ราคาหน้าโรงกลั่นอยู่ที่ลิตรละ 36 บาท เงินทุกบาทที่อุดหนุนน้ำมันดีเซล กองทุนน้ำมันใช้ไปเกือบ 2,000 ล้านบาทต่อเดือน ปัจจุบันอุดหนุนไปแล้วประมาณ 20,000 ล้านบาท เป็นการอุดหนุนที่ลดลงแล้วแต่ยังสูงอยู่ กองทุนน้ำมันติดลบเกือบจะ 60,000 ล้านบาท ทำให้ต้องไปกู้ยืมจากสถาบันการเงินมาเพิ่ม
การใช้เงินจากกองทุนน้ำมันอย่างเดียวเป็นสิ่งที่ยากลำบาก เห็นว่า ควรจะลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันจากที่ลดอยู่ 3 บาทต่อลิตร ที่จะครบกำหนดในวันที่ 20 พ.ค.65 ถ้าจะช่วยอีกให้ลดลงเหลือ 0 ซึ่งวิธีการนี้เชื่อว่าเป็นสิ่งที่ยากลำบากเช่นกัน ใครเป็นรัฐบาลก็ตัดสินใจยาก เนื่องจาก รัฐบาลยังไม่อยากสูญเสียรายได้ ทำให้สถานะทางการคลังดูแย่ลง น่าห่วงที่จะกระทบเศรษฐกิจของประเทศ เพราะสถานการณ์เราไม่มีทางเลือก ปัญหาอยู่เหนือการควบคุม
ส่วนข้อเสนอที่ว่าไทยซื้อน้ำมันจากรัสเซียโดยตรงได้หรือไม่ ศ.ดร.พรายพล อธิบายว่า ไทยทำสัญญาระยะยาวกับตะวันออกกลาง ชนิดของน้ำมันไม่เหมือนกัน ระยะทางในการขนส่งที่รัสเซียไกลจากไทยไปอีก ทำให้ต้นทุนสูงขึ้น การเมืองระหว่างประเทศ คงทำให้สหรัฐฯและยุโรป ไม่พอใจ ดังนั้นต้องคิดให้รอบคอบ
สถานการณ์รัสเซีย ยูเครน ไม่มีใครบอกได้ว่าจะจบลงเมื่อใด ทำให้เกิดความไม่แน่นอนสูง ขณะที่ กลุ่มโอเปก และ โอเปกพลัส ไม่ปรับเพิ่มกำลังการผลิต ทำให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกเพิ่มสูงขึ้นไปอีก
#น้ำมันแพง
แฟ้มภาพ Energy News Center