เกาะวานูอาตู กลางมหาสมุทรแปซิฟิกทางตอนใต้ เจอพายุไซโคลน พัดถล่มอย่างหนักตายกว่า40ศพ

พายุไซโคลน "ปาล์ม" ซึ่งมีความเร็วลมสูงถึง 340 กม.ต่อชั่งโมง พัดถล่มซัดหลังคาบ้านเรือนปลิวว่อนกระจาย และโค่นต้นไม้บนเกาะวานูอาตู กลางมหาสมุทรแปซิฟิกทางตอนใต้ ห่างจากออสเตรเลียไปทางทิศตะวันออกราว 1,750 กม. นับเป็นพายุกำลังแรงที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นในภูมิภาค คลื่นสูงซัดสาด 8 เมตร ลมกระโชกแรงยังทำให้น้ำท่วมฉับพลันทั่วเมืองพอร์ท วิลา ซึ่งเป็นเมืองหลวง หลังพายุดังกล่าวพัดถล่มปาปัวนิวกินีและหมู่เกาะโซโลมอน ภาพถ่ายดาวเทียมแสดงให้เห็นว่า พายุไซโคลนปาล์ม ซึ่งมีความรุนแรงระดับ 5 แผ่ปกคลุมพื้นที่ทั้งเกาะ โฆษกกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูนิเซฟ ระบุว่า พายุไซโคลนปาล์มอาจเป็นพายุที่มีขนาดรุนแรงที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์ของเกาะวานูอาตูและอาจเป็นหนึ่งในพิบัติภัยธรรมชาติที่เลวร้ายที่สุดในแปซิฟิก ซึ่งจนถึงขณะนี้ รายงานไม่ยืนยันระบุว่า มีผู้เสียชีวิตแล้ว 44 คน บาดเจ็บอีกเป็นจำนวนมาก การสื่อสารกับโลกภายนอกถูกตัดขาดเป็นส่วนใหญ่ ไม่มีน้ำสะอาดใช้ เรือกสวนเสียหายเป็นวงกว้าง มีความเสี่ยงเกิดโรคติดเชื้อและภาวะอดอยาก สำนักงานจัดภัยพิบัติแห่งชาติยกระดับเตือนภัยสีแดงในหลายจังหวัด เจ้าหน้าที่บรรเทาภัยยังไม่สามารถลงพื้นที่ได้ เนื่องจากสนามบินยังปิดให้บริการ คาดว่า ผู้เสียชีวิตอาจมีจำนวนสูงขึ้น ทั้งนี้ วานูอาตูเป็นหนึ่งในประเทศที่ยากจนที่สุดในโลก ระบบเศรษฐกิจพึ่งพาการท่องเที่ยว พายุไซโคลนปาล์มนับเป็นพายุที่มีขนาดรุนแรงที่สุดที่พัดถล่มประเทศดังกล่าวนับตั้งแต่ปี 2530 เป็นอย่างน้อย ความรุนแรงของพายุเทียบได้กับพายุไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนที่เคยพัดฟิลิปปินส์เมื่อปี 2556 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 6,000 คน