ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อ(CDC)ของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า การระบาดของไวรัส BA.2.12.1 ซึ่งแยกย่อยมาจากไวรัสโอไมครอนในสหรัฐฯ ทำให้เกิดการระบาดระลอกใหม่ของโรคโควิด-19 ในสหรัฐฯในช่วง 2 สัปดาห์ที่แล้ว โดยตัวเลขผู้ป่วยใหม่ในสัปดาห์นี้เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนกว่าร้อยละ 50 ทั่วประเทศ และมีผู้ป่วยหนักจนต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเพิ่มร้อยละ 10 นับตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว โดยเฉพาะศูนย์กลางการระบาดใหม่ เช่น รัฐวอชิงตัน รัฐมิสซิสซิปปี รัฐจอร์เจีย รัฐเมน รัฐฮาวาย รัฐเซาท์ดาโคตา รัฐเนวาดา รัฐมอนแทนาและรัฐนิวยอร์ก
โดยเฉพาะรัฐนิวยอร์ก กระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์ของสหรัฐฯ ระบุว่า ร้อยละ 86.9 ของชาวอเมริกัน อายุ 18 ปีขึ้นไปจะได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว แต่ CDC แนะนำให้สวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในอาคารสาธารณะ เช่น รถไฟใต้ดิน และห้างสรรพสินค้า เพื่อลดการแพร่ระบาด
ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯพบไวรัส BA.2.12.1 ระบาดในนครนิวยอร์กครั้งแรกในเดือนเมษายน โดยในสัปดาห์นี้ ผู้ป่วยใหม่จากไวรัส BA.2.12.1 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 25 ของผู้ป่วยใหม่ทั้งหมดในสหรัฐฯ ระบาดเร็วกว่าสายพันธุ์ย่อยตัวแรกคือ BA.2 ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 37 ของผู้ป่วยใหม่ทั้งหมดในสหรัฐฯ
ส่วนในแอฟริกาใต้ สถาบันโรคติดต่อแห่งชาติของแอฟริกาใต้ เปิดเผยว่า หลังแนวโน้มการแพร่ระบาดในแอฟริกาใต้ลดลงมาหลายสัปดาห์ แอฟริกาใต้พบการระบาดระลอกใหม่ มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นใน 2 สัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนั้นนักวิทยาศาสตร์แอฟริกาใต้ยังคงเฝ้าระวังสายพันธุ์ย่อยอื่นๆของไวรัสโอไมครอน เช่น สายพันธุ์ BA.4 และ BA.5 โดยในปัจจุบัน ทุกสายพันธุ์ของไวรัสโอไมครอนคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 60 ของผู้ป่วยใหม่ทั้งหมดในแอฟริกาใต้ในช่วงปลายเดือนเมษายน
ด้านเว็บไซต์ outbreak.info ซึ่งเป็นแนวร่วมวิจัยทางวิชาการ ได้รับทุนสนับสนุนการวิจัยจากสถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐฯระบุว่าจากการตรวจพันธุ์กรรมของไวรัสของนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกพบไวรัส BA.4 แพร่ระบาดใน 15 ประเทศและระบาดใน 10 รัฐของสหรัฐฯ ขณะที่ไวรัส BA.5 แพร่ระบาดใน 13 ประเทศและ 5 รัฐของสหรัฐฯ
ก่อนหน้านี้ มีผลการวิจัย ระบุว่า ไวรัส BA.4 และ BA.5 สามารถหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันเช่น คนไข้ติดโรคโควิด-19 ซ้ำจากไวรัส BA.4 และ BA.5 หลังหายป่วยจาก BA.1 ซึ่งไวรัสโอไมครอนดั้งเดิมและเป็นต้นเหตุของการระบาดใหญ่ในหลายประเทศช่วงเดือนธันวาคมปีที่แล้วจนถึงเดือนมกราคมปีนี้ นอกจากนั้น แม้แต่คนที่รับวัคซีนครบโดสแล้วก็สามารถจะติดโรคโควิด-19 ซ้ำจากไวรัส BA.4 และ BA.5 แต่วัคซีนสามารถช่วยลดอัตราการป่วยหนักหรือการเสียชีวิต เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ยังไม่ได้รับวัคซีน
#สหรัฐฯ
#แอฟริกาใต้
#ผลวิจัยไวรัสโอไมครอน