สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศจีน ยังไม่ลดลง โดยเฉพาะกรุงปักกิ่งยังคงเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการแพร่ระบาดใหม่ในประเทศจีน มีผู้ป่วยรายใหม่ 53 คนในรอบ 24 ชั่วโมง รัฐบาลกรุงปักกิ่ง เปิดเผยว่า กรุงปักกิ่งปิดระบบขนส่งสาธารณะ รวมทั้งปิดสถานีรถไฟใต้ดินกว่า 40 แห่ง และหยุดบริการรถประจำทางใน 158 เส้นทางชั่วคราว เริ่มจากวันนี้(4 พฤษภาคม 2565)ไปจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยพื้นที่ที่มีการปิดสถานีรถไฟใต้ดิน และหยุดเดินรถประจำทางชั่วคราวส่วนใหญ่อยู่ในเขตเฉาหยาง ศูนย์กลางการแพร่ระบาดในกรุงปักกิ่งในปัจจุบัน
รัฐบาลกรุงปักกิ่ง คาดว่า การปิดระบบขนส่งสาธารณะชั่วคราวจะช่วยสกัดการแพร่ระบาด ทำให้กรุงปักกิ่งไม่ต้องยกระดับการควบคุมโรคเช่นนครเซี่ยงไฮ้ ศูนย์กลางการเงินและอุตสาหกรรมทางภาคตะวันออกของประเทศซึ่งใช้มาตรการล็อกดาวน์มากว่าหนึ่งเดือนแล้ว นอกจากนั้น รัฐบาลกรุงปักกิ่ง ปิดโรงเรียน อาคารพาณิชย์ และอาคารพักอาศัยบางแห่งในพื้นที่เสี่ยงสูงเช่น ห้ามประชาชนออกจากอาคารพักอาศัย เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด ทำให้ชาวบ้านหลายคนซื้ออาหารกักตุน เผื่อรัฐบาลกรุงปักกิ่งประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั่วทั้งกรุงปักกิ่งในอนาคต
สำหรับกรุงปักกิ่งมีประชากร 22 ล้านคน ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจีนได้จัดโครงการตรวจคัดกรองโรคแบบ PCR ซ้ำอีกใน 12 เขตจากทั้งหมด 16 เขตของกรุงปักกิ่ง ระหว่าง 3-5 พฤษภาคมนี้ หลังจัดโครงการตรวจคัดกรองโรคมาครั้งหนึ่งแล้วในสัปดาห์ก่อน
ขณะเดียวกัน รัฐบาลท้องถิ่นในเมืองเจิ้งโจว มณฑลเหอหนาน ทางภาคกลางของประเทศ ประกาศเมื่อค่ำวานนี้ให้ประชาชนลดการเดินทางระหว่างวันที่ 4-10 พฤษภาคม 2565 เพื่อลดการแพร่ระบาด ให้โรงเรียนจัดการเรียนการสอนด้วยระบบออนไลน์แทนการเรียนแบบเข้าชั้นเรียน ให้คนงานในหน่วยงานของรัฐและบริษัทเอกชนทำงานที่บ้าน
สำหรับเมืองเจิ้งโจว มีประชากร 12.6 ล้านคน และเป็นที่ตั้งของโรงงานฟ็อกซ์คอนน์ ผู้ผลิตเครื่องไอโฟนของบริษัทแอปเปิ้ลของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองใหญ่กว่า 10 เมืองของจีนที่ถูกล็อกดาวน์ทั้งเมืองหรือบางอำเภอในปัจจุบัน
สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดในวันนี้ ประเทศจีนพบผู้ป่วยรายใหม่ 362 คน ตัวเลขผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 218,198 คน เสียชีวิต 5,128 ราย
#จีน
#ปิดระบบขนส่งสาธารณะ
#โควิด19
#ศูนย์ข่าวแปซิฟิค