ประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส โทรศัพท์หารือกับประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย และแสดงความกังวลเกี่ยวกับปัญหาขาดแคลนอาหาร โดยแจ้งว่าเขายินดีที่จะทำงานร่วมกับองค์กรระหว่างประเทศเพื่อให้รัสเซียยุติการปิดกั้นทะเลดำเพื่อให้ยูเครนสามารถส่งออกผลผลิตได้ แต่ประธานาธิบดีปูติน กล่าวตอบว่าจุดเริ่มต้นของปัญหาคือการที่สหรัฐฯและชาติตะวันตกคว่ำบาตรรัสเซีย
ในรายงานของสำนักงานประธานาธิบดีฝรั่งเศส ระบุว่า ประธานาธิบดีมาครง กล่าวย้ำกับประธานาธิบดีปูตินว่า ต้องมีการหยุดยิงในยูเครน และเขามีความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับสถานการณ์ในดอนบาสและมาริอูโปล จึงขอเรียกร้องให้รัสเซียดำเนินการตามความรับผิดชอบระหว่างประเทศในฐานะสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ตระหนักถึงผลที่เกิดจากการโจมตียูเครน และขอให้สนับสนุนการอพยพประชาชนที่ติดอยู่ในโรงงานเหล็ก อาซอฟสทัล ในมาริอูโปล และอนุญาตให้ผู้อพยพสามารถเลือกจุดหมายปลายทางของพวกเขาตามที่กฎหมายระหว่างประเทศระบุไว้
นอกจากนี้ ประธานาธิบดีมาครง ยังแสดงถึงความเต็มใจที่จะทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง ให้เกิดสันติภาพ ด้วยความความเคารพในอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของยูเครน
ด้านทำเนียบเครมลินของรัสเซีย รายงานว่า ประธานาธิบดีปูติน บอกกับประธานาธิบดีมาครง ว่าสหภาพยุโรปเพิกเฉยต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ชาติตะวันตกสามารถหยุดสถานการณ์นี้ได้ด้วยการกดดันทางการยูเครน และหยุดการจัดหาอาวุธให้กับยูเครน ซึ่งเขาเห็นว่าไม่มีความจริงจังในการเจรจาแก้ไขความขัดแย้งที่เกิดขึ้น
เมื่อ 3 วันก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีมาครงโทรศัพท์หารือกับประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน และแสดงความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตขาดแคลนอาหาร โดยบอกว่า เขาเต็มใจที่จะทำงานร่วมกับองค์กรระหว่างประเทศเพื่อให้รัสเซียยกเลิกการปิดกั้นทะเลดำ เพื่อให้ยูเครนส่งออกผลผลิตทางการเกษตรได้อีกครั้ง
มีผู้เสียชีวิตหลายพันคนและอีกกว่า 13 ล้านคนต้องพลัดถิ่นตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ก่อเกิดวิกฤตผู้ลี้ภัยที่เลวร้ายที่สุดในยุโรปนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งรัสเซียเรียกว่าเป็น "ปฏิบัติการพิเศษทางทหาร" แต่ยูเครนและพันธมิตร กล่าวว่านี่คือสงคราม
...
#ฝรั่งเศส
#รัสเซีย