นายโทบิน โกเรย์ นักวิเคราะห์ราคาสินค้าโภคภัณฑ์จากธนาคารคอมมอนเวล แบงก์ของออสเตรเลีย เปิดเผยว่า การซื้อขายในตลาดเอเชีย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นวันหยุดชดเชยวันแรงงานสากลในวันนี้ ราคาน้ำมันดิบลดลงเนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่กังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจอ่อนแอในประเทศจีน ในฐานะผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่ของโลก หลังสำนักงานสถิติแห่งชาติ (NBS) ของจีน เปิดเผยข้อมูลเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาบ่งชี้ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของภาคการผลิตจีนอยู่ที่ 47.4 ในเดือนเมษายน ลดลงจาก 49.5 ในเดือนมีนาคม
ขณะที่ดัชนี PMI ภาคบริการของจีนอยู่ที่ 41.9 ในเดือนเมษายน ลดลงจาก 48.4 ในเดือนมีนาคม ปรับตัวต่ำที่สุดในรอบ 2 ปี หรือนับแต่การล็อกดาวน์เมืองอู่ฮั่นทางกลางของจีนเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในเดือนกุมภาพันธ์ 2563
นอกจากนี้ นักลงทุนยังรู้สึกกังวลมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติมของกลุ่มสหภาพยุโรป(อียู) เช่น การห้ามสมาชิกอียูสั่งซื้อน้ำมันดิบรัสเซีย อาจจะทำให้มีปริมาณน้ำมันดิบถูกส่งเข้าสู่ตลาดโลกน้อยลง ในปัจจุบัน ครึ่งหนึ่งของน้ำมันดิบ 4.7 ล้านบาร์เรลที่รัสเซียผลิตได้ในแต่ละวัน ถูกส่งออกไปยังกลุ่มอียู คิดเป็นหนึ่งในสี่ของการนำเข้าน้ำมันดิบทั้งหมดของกลุ่มอียูในปี 2563
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาดกรุงลอนดอน อังกฤษ ตามสัญญาซื้อขายล่วงหน้าลด 1.13 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ ร้อยละ 1.1 อยู่ที่ 106.01 ดอลาร์ต่อบาร์เรลในช่วงแรกของการซื้อขายวันนี้ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบที่ตลาดเวสต์เท็กซัส สหรัฐฯ ร่วง 1 ดอลลาร์ หรือร้อยละ 1 อยู่ที่ 103.6 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยตลาดในญี่ปุ่น อินเดียและตลาดทุกแห่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ปิดทำการในวันนี้ ชดเชยวันแรงงานสากล (1 พฤษภาคม 2565)
#ราคาน้ำมันดิบร่วง
#เศรษฐกิจจีนอ่อนแอ