*หลวงพ่อคูณพบลูกศิษย์สยบข่าวอัปมงคล/คสช.เตือนกลุ่มเคลื่อนไหวพรุ่งนี้*

สรุปข่าว 19.35น.

++++บรรยากาศที่ศาลาการเปรียญ วัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา หลังมีการแชร์ข่าวอัปมงคลในโลกออนไลน์ ที่ห้องกระจกปลอดเชื้อ บุคลากรทางการแพทย์ พร้อมลูกศิษย์คนสนิท ได้นำหลวงพ่อคูณ นั่งรถวิลแชร์ออกจากห้องจำวัด มาพบศิษยานุศิษย์ จำนวนหลายร้อยคน นายศักดิ์สิทธิ์  สกุลลิขเรศสีมา นายอำเภอด่านขุนทด กล่าวว่า  จากการพูดคุย สนทนากับบรรดาลูกศิษย์ ส่วนหนึ่งได้แสดงความคิดเห็นถึงเหตุผลการปล่อยข่าว ซึ่งเป็นพวกโรคจิต ชอบสร้างความปั่นป่วน รวมทั้งอาศัยช่วงวันศุกร์ 13 ที่ชาวต่างประเทศ มีความเชื่อ เลข 13 เป็นเลขแห่งความโชคร้าย โดยอาศัยผลพลอยได้สร้างสีสันให้ยอดขายสลากกินแบ่งรัฐบาล ซึ่งกำลังซบเซา และกระตุ้นการจำหน่ายเครื่องรางของขลัง

++++คดีลอบวางระเบิดศาลอาญา รัชดา ฯ พล.ท.กัมปนาท รุดดิษฐ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) ขอให้มั่นใจว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงทุกภาคส่วน ทั้งพลเรือน ตำรวจ ทหาร สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ โดยเฉพาะประชาชนส่วนใหญ่ที่ช่วยกันเป็นหูเป็นตา แจ้งเบาะแสให้ดี ประชาชนอย่าตื่นตระหนก เพราะปัจจุบันเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาและเครือข่ายไว้แล้ว  ถ้าหลักฐานถึงใครก็ต้องเกี่ยวข้องหมด เพราะฉะนั้นตอนนี้ก็ไม่ต้องมาร้อนตัว เจ้าหน้าที่กำลังทำงานอย่างเต็มที่ สำหรับข้อมูลที่ทางเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนจะโยงใยกับบัญชีดำของกองทัพบกหรือไม่นั้นไม่ขอตอบ เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการอยู่ ส่วนกรณีที่กลุ่มพลเมืองโต้กลับ ออกมารณรงค์ในวันที่ 14-16 มี.ค.นี้ เพื่อต่อต้านไม่ให้นำพลเรือนไปขึ้นศาลทหารนั้น มองว่าให้ไปดูกลุ่มคนที่ออกมาเคลื่อนไหว เช็คประวัติ ย้อนหลังและดู ความเชื่อมโยงต่างๆ ที่ผ่านมาก็เป็นตัวบ่งชี้อยู่แล้วว่าเป็นอย่างไร

+++พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณี "กลุ่มพลเมืองโต้กลับ" ออกมารณรงค์ไม่ให้ นำพลเรือนขึ้นศาลทหารนั้น  ยืนยัน เป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง ส่วนขั้นตอนการฟ้องร้องดำเนินคดีของตำรวจ จะส่งฟ้องที่ศาลทหาร หรือศาลพลเรือน คงอยู่ในบรรทัดฐานเดียวกัน มั่นใจสังคมส่วนใหญ่เข้าใจดี ช่วงเวลาบ้านเมืองไม่ปกติ จำเป็นที่ภาครัฐจะต้องให้คนในสังคมเคารพและปฏิบัติตนอยู่ในกรอบกติกามากขึ้นสำหรับกิจกรรมในวันพรุ่งนี้ หากพบมีการละเมิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องดำเนินการ 

+++นายโอภาส กลั่นบุศย์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า ในวันนี้ไม่พบความผิดปกติการเบิกถอนเงินจากสหกรณ์ออมทรัพย์ทั้ง 76 แห่ง ที่เป็นเจ้าหนี้สหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น จำกัด และผู้บริหารสหกรณ์แต่ละแห่งได้ชี้แจงทำความเข้าใจกับสมาชิกอย่างทั่วถึงแล้ว จึงทำให้ไม่หวั่นวิตกต่อกรณีกระแสข่าวประชาชนแห่ถอนเงินที่ปรากฏออกมาก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ตนสั่งการให้นายทะเบียนสหกรณ์ทุกจังหวัด รายงานความเคลื่อนไหวถึงการเบิกถอนเงินจากสหกรณ์ทั่วประเทศ เข้ามาที่กรมตลอดเวลา  ส่วนการติดตามเงินบริจาค จากวัดพระธรรมกายกว่า 900 ล้านบาทนั้น ทราบว่า ทั้งฝ่ายวัดและสหกรณ์เครติดยูเนียนคลองจั่น จะไปตกลงเงื่อนไขการจ่ายคืน ที่ศาลธัญญบุรี จ.ปทุมธานี วันที่ 16 มี.ค.นี้

+++นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวว่าการทำคำชี้แจงต่อประเด็นข้อซักถามของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และนายมีชัย ฤชุพันธุ์ สมาชิก คสช. จำนวน 17 ประเด็นในร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นั้น เบื้องต้นจะให้คณะทำงานฝ่ายกฎหมายของกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญไปจัดทำร่างคำชี้แจงและให้กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญร่วมกันพิจารณาอีกครั้ง  ส่วนในบางประเด็นที่มีความเกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาการเมืองและไม่ได้มีอยู่ในร่างรัฐธรรมนูญนั้น จำเป็นที่ต้องให้ฝ่ายกฎหมายพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ส่วนระยะเวลาที่จะตอบกลับนั้น ยังไม่ได้กำหนด

+++พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมคณะ ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง ไปยังกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เพื่อเข้าร่วมการประชุมสหประชาชาติระดับโลกว่าด้วยการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ ครั้งที่ 3 การเดินทางครั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จะมีโอกาสพบหารือทวิภาคีกับนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น และนายบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติ รวมทั้งการเข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารกลางวันสำหรับผู้นำ ที่มีนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพ   

+++นายธีรัชย์ อัตนวานิช รองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า ยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ 31 ม.ค.58 มีจำนวนทั้งสิ้น 5,658,059.36 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 46.46 ของ GDP เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 34,085.53 ล้านบาท         ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นปีงบ 58 จนถึงสิ้นเดือน ม.ค.58 รัฐบาลได้กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณไปแล้ว 1.1 แสนล้านบาท ใน สัปดาห์หน้ากระทรวงการคลังเตรียมจะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาแนวทางการกู้เงินในปีงบประมาณ 58 สำหรับการลงทุนในโครงการบริหารจัดการน้ำและถนน รวม 5.7 หมื่นล้านบาท จากกรอบวงเงินทั้งหมด 8 หมื่นล้านบาท เพื่อให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาสำหรับวงเงินในส่วนที่เหลืออีกราว 2.3 หมื่นล้านบาทนั้น จะแบ่งไปกู้ในปีงบประมาณ 59 โดยแนวทางเบื้องต้นจะทยอยกู้ตามความจำเป็น

++++นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้า ประจำกรุงนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐในช่วงปีนี้ยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว เนืองจากราคาน้ำมันปรับลดลง ส่งผลให้มีการใช้จ่ายมากขึ้นประกอบกับค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นทำให้มีการนำเข้ามากขึ้น โดยยังตั้งเป้าหมายการส่งออกของไทยไปสหรัฐ อเมริกาว่าจะขยายตัวร้อยละ3 สินค้าที่มีศักยภาพ คือ ธุรกิจโรงแรม อัญมณี แต่ทั้งนี้ผู้ประกอบการต้องทำการค้าอย่างระมัดระวัง เพราะการแข่งขันจะสูงขึ้น เพราะเมื่อสหรัฐเศรษฐกิจเริ่มฟื้น หลายประเทศ ก็สนใจกลับเข้ามาทำการค้าด้วย

+++ด้านนายไผท สุขสมหมาย ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการค้า ประจำกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า แนวโน้มการส่งออกยังไปเอเชียภาพรวมยังไปได้ดี โดยคาดว่าการส่งออกไปเอเชียจะขยายตัวได้ถึงร้อยละ 4.5  เนื่องจากการส่งออกไปจีนยังค่อนข้างดี ในขณะที่เศรษฐกิจของญี่ปุ่นยังคงชะลอตัว สินค้าที่มีแนวโน้มขยายตัวคือ กลุ่มวัสดุก่อสร้าง สินค้าแฟชั่น และสินค้าสำหรับผู้สูงอายุ โดยสำนักงานฯ ได้เร่งให้ความรู้ผู้ประกอบการในการสร้างแบรนด์ เพื่อยกระดับ และสร้างการยอมรับในการเข้าไปในตลาดด้วย ซึ่งถือเป็นหนึ่งในแผนกระตุ้นการส่งออกสำหรับญี่ปุ่นด้วย สำหรับ แผนการส่งเสริมการส่งออกทั้งหมด จะเสนอพลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในวันที่16มีนาคม

++++นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัคแห่งมาเลเซีย ยืนยันว่าภาวะหนี้สินภาครัฐยังอยู่ในระดับที่สามารถบริหารจัดการได้ แม้ภาวะหนี้สินจนถึงเดือนธันวาคม 2557 จะสูงถึง 582,800 ล้านริงกิต  หรือร้อยละ 54.5 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือ จีดีพี เศรษฐกิจของมาเลเซียเติบโตได้ถึงร้อยละ 6 ซึ่งสูงเป็นอันดับที่ 2 ของกลุ่มอาเซียน รองจากฟิลิปปินส์ ที่เติบโตร้อยละ 6.1 และเป็นเศรษฐกิจที่มีการเติบโตสูงเป็นอันดับที่ 6 ในทวีปเอเชีย แต่เกิดจากการกู้ยืมเงินเพื่อนำมาใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านโครงการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ 

++++นายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ซีปราส ผู้นำกรีซ กล่าวหลังการลงนามในข้อตกลงความร่วมมือและการปฏิรูป ร่วมกับองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (โออีซีดี) ยืนยันว่า รัฐบาลจะชำระหนี้งวดต่อไป มูลค่า 6,000 ล้านยูโร ภายในกำหนดที่กำลังจะมาถึงในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า

+++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดการซื้อขายท้ายสัปดาห์ ลดลง2.79 จุด ที่ระดับ1,541.55 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น46,691.86 ล้านบาท

+++ดัชนีนิกเกอิปรับตัวขึ้น 48.24 จุด ที่ 18,751.84 จุด

+++ดัชนีฮั่งเส็งลดลง 272.34 จุด ที่ 24,193.04 จุด