ศาสตราจารย์ ตูลิโอ เดอ โอลิเวียรา หัวหน้าสำนักงานตรวจพันธุกรรมของเชื้อไวรัสของแอฟริกาใต้ เปิดเผยว่า ทีมนักวิทยาศาสตร์ของแอฟริกาใต้พบว่า ไวรัส BA.4 และ BA.5 สองสายพันธุ์ย่อยจากไวรัสโอไมครอนที่นักวิทยาศาสตร์ของแอฟริกาใต้ค้นพบในเดือนนี้ สามารถจะหลบเลี่ยงวัคซีนและภูมิคุ้มกันโรคตามธรรมชาติหลังหายป่วย อีกทั้งแพร่ระบาดเร็วกว่าไวรัส BA.2 หรือสายพันธุ์ที่แยกย่อยจากไวรัสโอไมครอนก่อนหน้านี้ ซึ่งระบาดเร็วกว่าโอไมครอนสายพันธุ์ดั้งเดิม แต่การระบาดของไวรัสโอไมครอน หรือไวรัสย่อยจากไวรัสโอไมครอน ไม่ได้แปลว่ามีอัตราการเข้าโรงพยาบาลหรือการเสียชีวิตเพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่ป่วยเล็กน้อยถึงปานกลาง
ในปัจจุบัน ประชาชนทั้งหมด 59 ล้านคนในแอฟริกาใต้รับวัคซีนแล้ว หรือหายป่วยจากโรคโควิด-19 กว่าร้อยละ 90 ของประชากรมีภูมิคุ้มกันแล้ว การพบผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้นในระยะนี้ ส่วนใหญ่ป่วยจากไวรัส BA.4 และ BA.5 บ่งชี้ว่า ไวรัส BA.4 และ BA.5 สามารถจะหลบเลี่ยงประสิทธิภาพวัคซีน หรือภูมิคุ้มกันหลังหายป่วย ระบุว่า การกลายพันธุ์จากไวรัสสายพันธุ์เดียวกันเช่นนี้ทำให้ไวรัสสามารถจะหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันในร่างกาย และทำให้คนที่รับวัคซีนครบโดสแล้วหรือหายป่วยแล้ว กลับมาติดโรคโควิด-19 ซ้ำ
ก่อนหน้านี้ นักวิทยาศาสตร์จากแอฟริกาใต้และบอตสวานา ค้นพบไวรัสโอไมครอนในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ต่อมาแอฟริกาใต้เป็นประเทศแรกที่พบการระบาดใหญ่ของไวรัสโอไมครอน ก่อนจะแพร่ระบาดทั่วโลกในเวลาต่อมา แต่ปัจจุบัน ไวรัส BA.4 และ BA.5 สองไวรัสย่อยจากไวรัสโอไมครอน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 70 ของผู้ป่วยใหม่ในแอฟริกาใต้
ปัจจุบัน แอฟริกาใต้พบผู้ป่วยใหม่ 4,146 คนในรอบ 24 ชั่วโมง นับว่ามีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับผู้ป่วยใหม่ 581 คน เมื่อวันที่ 28 มีนาคม ตัวเลขผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 3.7 ล้านคน เสียชีวิต 100,355 ราย
#แอฟริกาใต้
#ไวรัสย่อยของโอไมครอน
#วัคซีนต้านไม่อยู่