โควิด-19-สงครามยูเครน กระทบเศรษฐกิจสหรัฐฯไตรมาสแรกปีนี้ ต่ำสุดในรอบ 2 ปี

          ก่อนกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯจะแถลงตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจสหรัฐฯในช่วงไตรมาสที่ 1ของปีนี้ในวันนี้ บริษัทรีฟินิทีฟ(Refinitiv) เปิดเผยผลสำรวจความเห็นของนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ของสหรัฐฯ ระบุว่า นักลงทุนอาจจะต้องทำใจรับข่าวร้ายเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ คาดว่า อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจสหรัฐฯในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้จะอยู่ที่ร้อยละ 1.1 ต่ำสุดในรอบ 2 ปี

          ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐฯสาขาเมืองแอตแลนตา หนึ่งใน 12 สาขาธนาคารกลางสหรัฐฯระบุในรายงานประเมินอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งเรียกว่า GDP Now ระบุว่า เศรษฐกิจของสหรัฐฯไตรมาสแรกของปีนี้จะเติบโตในอัตราเพียงร้อยละ 0.4 ลดลงจากตัวเลขคาดการณ์เดิมร้อยละ 1.3 ช่วงกลางเดือนเมษายน

          หากตัวเลขคาดการณ์ทางเศรษฐกิจตัวใดตัวหนึ่งข้างต้นถูกต้อง จะเป็นตัวเลขที่ลดลงมาก เมื่อเทียบกับอัตราการเจริญเติบโตร้อยละ 6.9 ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีที่แล้ว อีกทั้งจะเป็นอัตราการเจริญเติบโตรายไตรมาสที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่โรคโควิด-19 แพร่ระบาดในสหรัฐฯในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2563

          นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ คาดว่า การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจสหรัฐฯอ่อนแอลงในระยะนี้ เมื่อเทียบกับช่วงแรกๆที่สหรัฐฯเริ่มปลดมาตรการล็อกดาวน์ เปิดระบบเศรษฐกิจและเปิดประเทศเมื่อปีที่แล้ว แต่เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงก่อนการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งเป็นช่วงที่เศรษฐกิจสหรัฐฯฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง แม้ไม่สูงมาก การเจริญเติบโตในอัตราที่ต่ำ เช่น ร้อยละ 1 ถือว่าน่าผิดหวังสำหรับนักลงทุนส่วนใหญ่

          แต่นักเศรษฐศาสตร์จากบริษัทแอ็คชั่น อิโคนิมิคส์ (Action Economics) ระบุว่า บริษัทเอกชนส่วนใหญ่ในสหรัฐฯเพิ่งกลับมาผลิตสินค้าอย่างเต็มกำลังการผลิตในไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว ส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐฯช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีที่แล้วเริ่มฟื้นตัวเร็วขึ้น แต่การผลิตของภาคอุตสาหกรรมกลับมาอ่อนแอลงในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ หลังไวรัสโอไมครอนเริ่มระบาดในสหรัฐฯ มีผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้น บางรัฐมีการล็อกดาวน์เพื่อสกัดการแพร่ระบาด แม้ว่าจะเป็นการล็อกดาวน์ในระยะสั้นๆ แต่มีผลกระทบระยะยาวเพิ่งจะปรากฏชัดเจนในขณะนี้

          นอกจากนั้น ชาวอเมริกันรู้สึกกังวลเรื่องค่าครองชีพที่สูงขึ้น อีกทั้งการบุกยูเครนของรัสเซียในเดือนมีนาคม ทำให้ราคาค่าแก๊สเพิ่มขึ้น แม้ว่าชาวอเมริกันส่วนใหญ่ยังมีเงินออมสำหรับใช้จ่ายในช่วงล็อกดาวน์ แต่ภาวะเงินเฟ้อสูงสุดในรอบ 40 ปี ทำให้หลายคนเริ่มปรับลดการซื้อของ เช่น ลดการซื้อของฟุ่มเฟือย สะท้อนถึงแนวโน้มทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ซึ่งต้องเน้นกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภคให้มากขึ้น

#สหรัฐฯ

#เศรษฐกิจไตรมาสแรก