*องคมนนตรี ลงพื้นที่ แก่งละว้าจ.ขอนแก่น มั่นใจบริหารจัดการน้ำในฤดูแล้ง ขอประชาชนช่วยเหลือกัน*

การเยี่ยมชมการบริหารจัดการน้ำของชุมชนตามแนวพระราชดำริในพื้นที่แก่งละว้า จ.ขอนแก่นในวันที่สองของคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ หรือกปร. ที่มีนาย พลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรีเป็นประธาน

 

ล่าสุดคณะได้เดินทางมาดูงานการขุดลอกคลองเชื่อมหนองกองแก้ว-กุดละว้า ที่ใช้ระบายและกักเก็บน้ำเพื่อการเกษตร 

นาย พลากร กล่าวกับผู้แทนกรมชลประทานและข้าราชการว่า การมาดูงานวันนี้เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ต่างๆว่าเป็นอย่างไร โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีกระแสรับสั่งว่าทรงห่วงใยพสกนิกรในพื้นที่ที่อาจจะประสบภัยแล้ง โดยพระองค์ไม่ทรงแบ่งแยกความช่วยเหลือ แต่ด้วยพระพลานามัยที่ไม่แข็งแรงเช่นเดิมประกอบกับทรงชราภาพจึงไม่สามารถเสด็จมาเยี่ยมพสกนิกรได้เหมือนก่อน การมาครั้งนี้ของตัวเองจึงจะมารับทราบความเป็นอยู่ของประชาชนและปัญหาต่างๆของคนในพื้นที่ ซึ่งหลังจากนี้จะนำข้อมูลที่ได้ไปจัดทำรายงานเพื่อทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายต่อไป ส่วนการขุดลอกคูคลองนี้นั้นแม้จะเป็นโครงการเดิม แต่ก็ถือว่าเป็นการพัฒนาประสิทธิภาพการส่งน้ำและการขยายผลความช่วยเหลือประชาชน ส่วนการบริหารจัดการน้ำ จะต้องมีมาตรการรองรับน้ำให้ดีเพียงพอและนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ โดยพบว่าช่วงฤดูฝนและฤดูน้ำหลากที่น้ำมามากก็จะทำให้น้ำท่วม แต่เมื่อเข้าช่วงฤดูแล้งน้ำก็จะไม่เพียงพอต่อการใช้ ดังนั้นจะต้องบริหารน้ำในช้วงฤดูฝนให้มีการกักเก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้ง ส่วนการติดตามสถานการณ์น้ำในขื่อนต่างๆในภาคตะวันออกเฉียงเหนือขณะนี้ยังพบว่าสามารถรับมืแภัยแล้งได้ดี และน่าจะมีน้ำใช้อุปโภคบริโภคไปจนถึงช่วงฤดูฝนเต็มตัว อย่างไรก็ดีอยากให้ประชาชนคอยช่วยเหลือกัน ไม่สร้างความขัดแย้งขึ้นอีก รวมทั้งต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเด็กรุ่นใหม่ เพื่อให้ประเทศพัฒนาได้ต่อไป 

 

ด้านนาย จรัส เพ็ญศิริสมบูรณ์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานจ.ขอนแก่น เปิดเผยว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นของกรมชลประทานมีเนื้อที่รวม 7400 ไร่ สามารถเก็บกักน้ำได้ 13.6 ล้านลูกบาศ์กเมตร โดยน้ำจากคลองนั้นจะไหลไปลงที่กุดละว้า และไหลต่อไปลงแก่งละว้า โดยพื้นที่นี้ได้รับความช่วยเหลือจากกองทัพบกในการขุดลอกเพื่อทำเป็นคลองเชื่อมต่อน้ำระหว่างหนองกองแก้ว-กุดละว้า-แก่งละว้า ซึ่งจะระบายน้ำให้ประชาชนใช้เพื่อการเกษตรและอุปโภคบริโภคได้อย่างสะดวกมากขึ้น โดยสถานการณ์น้ำปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 8.8ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 65 จากความจุทั้งหมด ซึ่งถือว่ามีความจุมากกว่าปี2557 ที่มีความจุร้อยละ 62 จากความจุทั้งหมด โดยในช้วงหน้าแล้งนี้ก็เชื่อว่าคลองยังมีน้ำเพียงพอต่อการใช้อุปโภคบริโภคของประชาชนด้วย