24 ชั่วโมงแรกของการทำหน้าที่ประธานาธิบดีฝรั่งเศสสมัยที่ 2 รัฐบาลของนายเอ็มมานูเอล มาครง ได้เพิ่มการตอบสนองต่อข้อกังวลเรื่องปัญหาค่าครองชีพ ตามที่นักวิเคราะห์ ชี้ว่า นโยบายเรื่องปัญหาค่าครองชีพของนางมารีน เลอ แปง ซึ่งเป็นคู่แข่งของเขาในการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสครั้งนี้ เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เธอได้รับคะแนนสนับสนุนมากอย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน แม้ว่าเธอจะพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งก็ตาม และทำให้นักวิเคราะห์ ระบุว่า การดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจของ “รัฐบาลมาครง 2 จะซับซ้อนกว่ามาครง 1” แม้ว่าชัยชนะของเขาจะเป็นข่าวดีสำหรับธุรกิจและยุโรป แต่มีความไม่แน่นอนและความกลัวมากมายที่ส่งผลกระทบต่อความไม่สงบทางสังคม
นายบรูโน เลอ แมร์ รัฐมนตรีเศรษฐกิจฝรั่งเศส กล่าวว่า รัฐบาลรับทราบความกังวลของประชาชนและจะเร่งแก้ไขปัญหา โดยจะเริ่มจากปัญหาราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นลำดับแรก
มีแนวโน้มที่ปัญหาด้านพลังงานจะเป็นแรงกดดันที่สำคัญต่อการทำงานในสมัยที่ 2 นี้ เพราะจะส่งผลต่อเนื่องให้รัฐบาลมีการใช้จ่ายมากขึ้น ซึ่งในปัจจุบัน การเงินของประเทศก็ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้มียอดขาดดุลงบประมาณเป็นร้อยละ 6.5 ในปีที่แล้ว (2564) และรัฐบาลได้เสนอเงินช่วยเหลือฉุกเฉินมูลค่า 25,000 ล้านยูโรสำหรับการอุดหนุนราคาพลังงาน
นอกจากนี้ รัฐบาลมาครง ยังมีความท้าทายเชิงโครงสร้างอีกมากมาย ปัญหาที่อยู่ในอันดับสูงสุดคือการปฏิรูปแรงงานและการปฏิรูประบบบำเหน็จบำนาญ ซึ่งจะขยายการเกษียณอายุการทำงานจาก 62 ปีเป็น 65 ปี แต่ในเวลานี้ ฝรั่งเศสมีการใช้จ่ายเกือบร้อยละ 14 ของจีดีพีเพื่อเงินบำนาญ มากกว่าประเทศเพื่อนบ้านในยุโรปส่วนใหญ่
แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อของฝรั่งเศสจะต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของยูโรโซน และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจของฝรั่งเศสจะแข็งแกร่งกว่าประเทศอื่นๆ ในยุโรป แต่ก็ได้รับผลกระทบจากปัญหาห่วงโซ่การผลิต และการที่รัสเซียโจมตียูเครน ซึ่งกลุ่มภาคการธนาคารมีความกังวลผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรเป็นอย่างมาก
...
#ฝรั่งเศส
#พลังงาน