‘มาครง’ เริ่มการทำงานปธน.ฝรั่งเศสสมัย 2 เสริมอาวุธยูเครน กดดันรัสเซียยุติปฏิบัติการ

26 เมษายน 2565, 19:20น.


          ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียส่งสารแสดงความยินดีต่อชัยชนะของนายเอ็มมานูเอล มาครง ที่ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส กลับมาดำรงตำแหน่งต่อเป็นสมัยที่ 2 อีก 5 ปี และอวยพรให้ “ประสบความสำเร็จในการบริหารประเทศ”



          ประธานาธิบดีมาครง เป็นหนึ่งในกลุ่มผู้นำยุโรปเพียงไม่กี่คนที่เดินทางไปรัสเซียเพื่อพบหารือกับประธานาธิบดีปูติน ให้ยุติปฏิบัติการของรัสเซียในยูเครน ทั้งยังมีการโทรศัพท์พูดคุยกันหลายครั้ง และในการเริ่มทำหน้าที่ในสมัยที่ 2 ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ยังคงมุ่งมั่นที่จะอยู่ในกลุ่มแนวหน้าของความพยายามในระดับนานาชาติเพื่อโน้มน้าวให้รัสเซียยุติปฏิบัติการ



           สื่อในฝรั่งเศส รายงานว่า ประธานาธิบดีมาครงเห็นชอบให้กองทัพสนับสนุนอาวุธรุ่นใหม่แก่ยูเครน เพื่อสกัดกั้นกองทัพรัสเซีย ในภูมิภาคตะวันออกของประเทศ ซึ่งทำให้ประธานาธิบดี โวโลดีมีร์ เซเลนสกี กล่าวว่า ประธานาธิบดีมาครงคือมิตรแท้ของยูเครนและขอบคุณที่ให้การสนับสนุน



          ที่ผ่านมาฝรั่งเศสไม่เปิดเผยเรื่องการสนับสนุนอาวุธให้แก่ยูเครนเพราะต้องการเน้นการทำงานทางการทูตเพื่อคลี่คลายวิกฤต แต่ในระหว่างการหาเสียง ประธานาธิบดีมาครงพูดถึงปืนใหญ่ซีซาร์และขีปนาวุธต่อต้านรถถัง ซึ่งเขากล่าวว่า ฝรั่งเศสไม่ต้องการสร้างความขัดแย้งโดยตรงกับรัสเซีย แต่ก็ต้องให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่แก่ชาวยูเครน



 





          สำหรับปืนใหญ่ซีซาร์ ติดตั้งบนรถบรรทุก (the truck-mounted Caesar cannons) สามารถยิงได้ 6 นัดต่อนาทีมีระยะทำการได้มากกว่า 40 กิโลเมตร เป็นอาวุธที่มีประสิทธิภาพมากในการทำสงครามปราบปรามกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอสในอิรัก นอกจากนี้ กองทัพฝรั่งเศส ยังเปิดเผยด้วยว่าได้จัดเตรียมกระสุนอีกหลายพันนัดที่จะจัดส่งให้กับยูเครน



          สำนักงานประธานาธิบดีฝรั่งเศส เปิดเผยว่า ผู้นำฝรั่งเศสกับรัสเซียไม่ได้พูดคุยกันตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคม และทำให้ประธานาธิบดี มาครง มีความเห็นว่าจะต้องกลับไปพูดคุยกับประธานาธิบปูตินอีกครั้ง มิเช่นนั้น จะกลายเป็นการเปิดทางให้ผู้นำของจีน อินเดีย และตุรกีกลายเป็นผู้นำในการเจรจาสันติภาพ ซึ่งเขาย้ำว่ายุโรปจะต้องมีบทบาทสำคัญในการเจรจา แต่ในระหว่างนี้ อาวุธของฝรั่งเศสจะทำหน้าที่เพิ่มแรงกดดันต่อประธานาธิบดีปูตินให้ยุติการโจมตี



 





 



          เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ประกาศสนับสนุนอาวุธ มูลค่า 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯให้แก่ยูเครน จากนั้นในวันอาทิตย์ ( 24 เม.ย.) นายแอนโทนี่ บลิงเคน รัฐมนตรีการต่างประเทศสหรัฐฯ และนายลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ เดินทางไปกรุงเคียฟ ยูเครน และประกาศเพิ่มเงินทุนสนับสนุนอีก 713 ล้านดอลลาร์เพื่อให้นำไปจัดซื้ออาวุธ



 





 



          นายอนาโตลี อันโตนอฟ เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำกรุงวอชิงตัน สหรัฐฯ ได้ส่งหนังสือทางการทูตเพื่อแสดงความวิตกกังวลแล้ว และกล่าวในวันนี้ (26 เม.ย.) ว่า การที่สหรัฐฯ สนับสนุนอาวุธและเงินทุนแก่ยูเครนอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งที่รัสเซียยอมรับไม่ได้ จึงเรียกร้องให้ยุติการกระทำ เพราะการกระทำของสหรัฐฯ จะทำให้สถานการณ์ในยูเครนเลวร้ายลง มีการเผชิญหน้ารุนแรงมากขึ้น



          และนายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีการต่างประเทศรัสเซีย กล่าวว่า สงครามนิวเคลียร์เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ แต่เป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ สถานการณ์ในยูเครนขณะนี้เลวร้ายลงจนถึงจุดที่เป็นอันตรายและกำลังนำไปสู่การเผชิญหน้าทางนิวเคลียร์



          เขากล่าวว่า รัสเซียมีจุดยืนไม่ยอมรับสงครามนิวเคลียร์ ทั้งเป็นผู้ริเริ่มข้อเรียกร้องให้สหรัฐ, จีน, ฝรั่งเศสและสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นมหาอำนาจนิวเคลียร์ และสมาชิกถาวรคณะมนตรีความมั่นคง สหประชาชาติ ลงนามรับรองในแถลงการณ์ร่วมเจนีวาเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว (2564) แต่ขณะนี้กำลังมีความเสี่ยงที่จะเกิดสงครามนิวเคลียร์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จึงเตือนสหรัฐฯ ว่าไม่ควรประเมินความเสี่ยงเรื่องนี้ต่ำเกินไป



.....



#สงครามยูเครน



#ฝรั่งเศส



#รัสเซีย



#สหรัฐอเมริกา

ข่าวทั้งหมด

X