IMF เผย ศก.จีนชะลอตัว ฉุดศก.เอเชียร่วงลงเหลือ 4.9%

          นางแอนน์-มาเรีย กอล์ด-วูล์ฟ (Anne-Marie Gulde-Wolf) รักษาการผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เปิดเผยว่า ประเทศในทวีปเอเชียส่วนใหญ่จะมีภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปีนี้ ปรับลดอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของเอเชียลดลงจากเดิมร้อยละ 5.4 เมื่อเดือนม.ค.มาอยู่ที่ร้อยละ 4.9 เนื่องจาก ประเทศส่วนใหญ่ในเอเชียจำเป็นต้องตรึงอัตราดอกเบี้ยต่ำอย่างต่อเนื่อง พร้อมเร่งหาทางลดอัตราเงินเฟ้อ และปรับนโยบายเศรษฐกิจของประเทศให้ยืดหยุ่นพอที่จะรับมือกับแรงกดดันจากภายนอกประเทศ เช่น สถานการณ์การสู้รบในยูเครน และการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของประเทศจีน ซึ่งจะมีผลต่อประเทศอื่นๆที่มีความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิดกับประเทศจีน

         ในรายงานภาวะเศรษฐกิจโลกประจำปีนี้ IMF ปรับลดตัวเลขคาดการณ์สำหรับเศรษฐกิจจีนในปีนี้จากเดิมที่ร้อยละ 4.8 ลงมาที่ร้อยละ 4.4 เนื่องจาก มาตรการล็อกดาวน์นครเซี่ยงไฮ้ ศูนย์กลางอุตสาหกรรมทางภาคตะวันออกของจีน และอาจจะมีการล็อกดาวน์เพิ่มเติมในบางท้องที่ รวมทั้งกรุงปักกิ่ง และการชะลอตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ในประเทศจีน ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญๆที่จะกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศอื่นๆในเอเชียเช่นเดียวกัน

          นางกอล์ด-วูล์ฟ กล่าวว่า แม้ว่าIMFจะปรับลดตัวเลขคาดการณ์การเติบโตของเอเชียในปีนี้ แต่เอเชียยังคงเป็นภูมิภาคหนึ่งที่มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจในอัตราที่สูง เมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่นๆทั่วโลก แต่ปัจจัยลบที่เกิดจากการบุกยูเครนของรัสเซียและการที่สหรัฐฯและชาติตะวันตกคว่ำบาตรรัสเซีย ส่งผลให้ราคาอาหารและราคาน้ำมันขยับขึ้นทั่วโลก ขณะเดียวกัน ธนาคารกลางของประเทศเศรษฐกิจหลักๆของโลก รวมทั้งสหรัฐฯ มีแผนจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อ นโยบายการเงินเช่นนี้จะทำให้หลายประเทศมีภาระหนี้สาธารณะสูงขึ้นเช่นเดียวกัน

          นางกอล์ด-วูล์ฟ กล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อของเอเชียจะขยับขึ้นไปอยู่ที่ร้อยละ 3.2 ในปีนี้ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์เดิมเมื่อเดือนม.ค.65 คือ ร้อยละ 2.2

#IMF

#เศรษฐกิจเอเชีย