การรับมือสถานการณ์ "
-การติดเชื้อในเด็ก มี "เด็กติด
-กลุ่มที่เสียชีวิต อาการหนักยังเป็นกลุ่มสูงวัย กลุ่มเปราะบาง มีโรคเรื้อรัง ติดบ้านติดเตียง ที่รับเชื้อจากคนใกล้ชิด
-การเสียชีวิตในเด็ก พบว่า มากกว่า50% เด็กที่มีอายุน้อยกว่า 5 ปี ส่วนใหญ่มีโรคร่วม และเกือบทั้งหมด ไม่มีข้อมูลได้ฉีดวัคซีน
ด้านการรักษาขณะนี้ทั่วประเทศมีเตียงรักษาโควิดประมาณ 1.8 แสนเตียง อัตราครองเตียงประมาณ 35.8%
การระบาดของ "
1. กลุ่มที่ไม่มีอาการหรือสบายดี ไม่ต้องกินยาต้านไวรัส อาจให้ยาฟ้าทลายโจรขึ้นกับดุลยพินิจของแพทย์
2. กลุ่มทึ่มีอาการไม่รุนแรง ไม่มีปอดอักเสบ ไม่มีปัจจัยเสี่ยง พิจารณาให้ Favipiravir เร็วที่สุด
3. กลุ่มที่มีปัจจัยเสี่ยง ต่อโรครุนแรงหรือกลุ่มที่มีปอดอักเสบ แต่ยังไม่ต้องให้ออกซิเจน พิจารณาให้ยาต้านไวรัสเร็วที่สุด ตัวใดตัวหนึ่ง ตาม CPG ของกรมการแพทย์ ได้แก่ Favipiravir หรือ Remdesivir หรือ Molnupiravir หรือ Nirmartelvir/ritonavir (Paxlovid) โดยประเมินจากประวัติวัคซีนและปัจจัยเสี่ยงต่อโรครุนแรง
4. กลุ่มที่มีอาการปอดอักเสบต้องได้รับการรักษาด้วยออกซิเจน พิจารณาให้ Remdesivir เร็วที่สุด ทั้งนี้ การรักษาในผู้ป่วยกลุ่มเด็ก มีแนวทางรักษา คือ การให้ยา Favipiravir ชนิดเม็ดและชนิดน้ำ ในกลุ่มอาการไม่รุนแรง และ Remdesivir ในกลุ่มอาการปานกลางถึงรุนแรง ส่วนการรักษาในกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ มีแนวทางคือ การให้ยา Remdesivir และอาจพิจารณาให้ Favipiravir ในไตรมาสที่ 2-3 พิจารณาเป็นกรณี
การรักษาผู้ป่วย
#โควิด19
#กรมการแพทย์
CR:เพจกรมการแพทย์