การฉีดวัคซีนโควิด-19 เพื่อเตรียมพร้อมเปิดเรียนในวันที่ 17 พฤษภาคม 2565 โดยเฉพาะการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นในกลุ่มอายุ 12 ปีขึ้นไป นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยรายละเอียด
-กลุ่มเด็กอายุ 5-11 ปี จำนวน 5.1 ล้านคน ฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 จำนวน 2.5 ล้านคน หรือ 50.3% เข็มที่ 2 จำนวน 0.29 ล้านคน หรือ 5.8%
-กลุ่มเด็กอายุ 12-17 ปี จำนวน 4.7 ล้านคน ฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 จำนวน 4.3 ล้านคน และ เข็มที่ 2 จำนวน 3.9 ล้านคน และเข็มที่ 3 จำนวน 7.7 ล้านคน
*จากมติการประชุมคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค เมื่อวันที่ 4 เม.ย.65 แนะนำให้เด็กกลุ่มอายุ 12-17 ปีที่ได้รับวัคซีน 2 เข็ม เข้ารับวัคซีนไฟเซอร์ เป็นเข็มกระตุ้นเข็มที่ 3 ขนาดโดสปกติ หรือ ครึ่งโดส มีระยะห่างจากเข็มที่ 2 เป็นระยะเวลาตั้งแต่ 4-6 เดือนขึ้นไป โดยให้เป็นไปตามความสมัครใจของผู้ปกครองและเด็ก
*มติที่ประชุมศูนย์ปฎิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข เมื่อวันที่ 11 เม.ย.65 แนะนำให้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ เข็มกระตุ้น ขนาด 15 ไมโครกรัม/โดส ผ่านระบบสถานศึกษา เนื่องจาก ผลการศึกษาพบว่า ระดับภูมิคุ้มกันชนิดลบล้างฤทธิ์ต่อเชื้อโอไมครอน อยู่ในเกณฑ์ดีมากทั้งการฉีดกระตุ้นขนาดเต็มโดสและครึ่งโดส(ขนาด 15 ไมโครกรัม มีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อไวรัส 88% ขนาด 30 ไมโครกรัม มีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อไวรัส 93%) ทั้งนี้ การรับวัคซีนขนาดครึ่งโดสมีโอกาสเกิดผลข้างเคียงหลังการฉีดน้อยกว่าการรับวัคซีนขนาดเต็มโดส
#บูสเข็ม3
#เตรียมเปิดเทอม
CR:ศูนย์ข้อมูล COVID-19