นายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า กลุ่มรถสิบล้อ กำลังจับตาดูว่ากระทรวงพลังงานจะปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซลเกินระดับ 30 บาทต่อลิตร ตามที่ประกาศจริงหรือไม่หลังพ้นวันที่ 30 เมษายน 2565 ที่จะสิ้นสุดมาตรการอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลไว้ไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร ซึ่งหากขยับราคาขึ้นจริง สหพันธ์การขนส่งทางบก ก็จำเป็นต้องประกาศปรับขึ้นอัตราค่าขนส่งตาม โดยจะปรับตามราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น เช่น
-หากราคาน้ำมันดีเซลปรับขึ้น 1 บาท ก็จะต้องปรับค่าขนส่งขึ้น 3% ซึ่งรวมๆ แล้วอาจต้องปรับค่าขนส่งขึ้นอีก 15-20% เพราะที่ผ่านมา ผู้ประกอบการต้องแบกรับภาระต้นทุนค่าขนส่งมาตลอด ซึ่งหากราคาน้ำมันดีเซลเพิ่มเกินลิตรละ 30 บาท ก็แบกรับภาระต่อไม่ไหว ย้ำครั้งนี้ปรับแน่ พร้อมย้ำสถานการณ์เศรษฐกิจในเวลานี้ ยังไม่เหมาะกับการปรับขึ้นราคาน้ำมัน เพราะจะเป็นการซ้ำเติมทั้งผู้ประกอบการและผู้บริโภค
ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2565 นี้เป็นต้นไป กองทุนน้ำมันฯ จะเลิกอุ้มราคาน้ำมันดีเซล 30 บาทต่อลิตร และปล่อยให้เป็นไปตามราคาในตลาดโลก โดยจะปรับการอุดหนุนราคาเป็นแบบคนละครึ่ง คือ กองทุนน้ำมันฯ จ่ายให้ครึ่งหนึ่งประชาชนรับภาระไปครึ่งหนึ่ง เช่น ปัจจุบันอุดหนุนประมาณ 8 บาทต่อลิตร ก็จะอุดหนุนแค่ 4 บาทต่อลิตรเท่านั้น นอกจากนี้ ในวันที่ 20 พฤษภาคม 2565 จะครบกำหนดมาตรการลดภาษีน้ำมันดีเซล 3 บาท ภาระค่าใช้จ่ายเงินในกองทุนน้ำมันฯ จะกลับมาสูงอีกครั้ง ปัจจุบัน กองทุนมีกระแสเงินสด อยู่ที่ 1.5 หมื่นล้านบาท แต่สถานะติดลบแล้วกว่า 4.2 หมี่นล้านบาท
สหพันธ์มีข้อเสนอแนะให้รัฐบาลเร่งพิจารณา เพื่อเป็นทางออกในการแก้ปัญหาราคาพลังงานแพง ได้แก่
1.ลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิงด้านขนส่งเหลือ 0.20 บาทต่อลิตร เท่ากับราคาน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบิน
2.นำไบโอดีเซลที่ใช้ผสมน้ำมันออกจากระบบชั่วคราวจะลดได้ 1.50-2.00 บาทต่อลิตร เพราะปัจจุบันราคาสูงกว่าน้ำมันดีเซลเท่าตัว
3.ในการเทียบราคาน้ำมันประเทศสิงคโปร์ ขอให้เลิกคิดค่าขนส่งรวมเข้าไปในต้นทุนด้วย
#สหพันธ์การขนส่งทางบก
#ปรับขึ้นค่าขนส่ง
CR: Facebook คนรักสิบล้อ