นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงาน ได้ติดตามสถานการณ์โลกอย่างใกล้ชิด รวมทั้งหารือบมจ.ปตท. ประเมินสถานการณ์ตลาดโลก คาดว่า ช่วงเม.ย.-พ.ค.นี้ ราคาน้ำมันดิบจะทรงตัวในระดับสูงมาก โดยเฉพาะดีเซลราคาจะอยู่ที่ระดับ 140-150 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล และทั้งปีราคาน้ำมันดิบดูไบ อาจเฉลี่ยใกล้เคียง 100 ดอลลาร์บาร์เรล หมายถึงราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่ตลาดสิงคโปร์ จะยืนตัวในระดับสูง 130-140 ดอลลาร์บาร์เรลด้วยเช่นกัน และหากมีการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติมอีก ทำให้นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน เป็นห่วงค่าครองชีพ เพราะหากราคาสูงตามคาด ราคาน้ำมันจะสูง กระทบต่อประชาชน โดยได้มอบหมายทุกหน่วยงานหาทางลดผลกระทบ เช่น ราคาดีเซลที่จะปรับเพิ่ม ตั้งแต่ 1 พ.ค.นี้ หลังครบกำหนดตรึงราคาไว้ที่ 30 บาทต่อลิตร โดยให้สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) ศึกษาแนวทางว่าจะทยอยขยับขึ้นราคาอย่างไร เพราะหากขึ้นตามแผนเดิม คือ คนละครึ่งกับประชาชน ในส่วนของราคาที่เกิน 30 บาทต่อลิตร ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 35-36 บาทต่อลิตร ประชาชนก็จะเดือดร้อน จึงต้องหาแนวทางลดผลกระทบเพิ่มเติม
ด้านสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน รายงานว่า ราคาจริงของน้ำมัน
อย่างไรก็ตามในการช่วยเหลือ
ดังนั้น จึงเสนอให้ สกนช.เร่งทำแผนช่วยเหลือหลายรูปแบบ เช่น
1.การทยอยขึ้นราคา โดยปรับราคาเป็น 32 บาทต่อลิตรก่อน และดูสถานะ
2.กระทรวงพลังงานและกระทรวงการคลังต้องหารือการลดภาษีสรรพสามิต
3.การกำหนดราคา
สถานการณ์ราคาน้ำมัน กลับมาน่าเป็นห่วงอีกครั้ง เนื่องจากต้นทุนยังสูงจากค่าเงินบาทอ่อนค่าที่ล่าสุด 33.88 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ราคาเชื้อเพลิงชีวภาพ มีราคาสูง บี 100 ราคา 55.56 บาทต่อลิตร เอทานอล 26.45 บาทต่อลิตร ขณะที่ราคาแอลพีจีหรือก๊าซหุงต้มก็มีราคาสูงเช่นกัน วันที่ 1 พ.ค.นี้ ราคาแอลพีจีก็จะขยับขึ้นอีก 1 บาทต่อกก. ราคาขายปลีกวันที่ 20 เม.ย.65 แอลพีจีอยู่ที่ 19.87 บาทต่อกก. กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงยังอุดหนุนแอลพีจี ที่ 17.52 บาทต่อกก. และสนับสนุนดีเซลที่ 11.21 บาทต่อลิตร ขณะที่ค่าการตลาดน้ำมัน อยู่ในเกณฑ์ต่ำมากวันที่ 1-20 เม.ย.65 ค่าการตลาดเฉลี่ย 1.28 บาทต่อลิตร เฉพาะดีเซลอยู่ที่ 69 สตางค์ต่อลิตร และในส่วนมาตรการดูแลราคาน้ำมันเบนซินในส่วนอื่น ยังไม่มี เนื่องจากจะต้องดูแลราคาน้ำมันดีเซล ซึ่งมีผลกระทบในภาพรวมมากกว่าก่อน
สำหรับฐานะเงินกองทุนน้ำมัน วันที่ 17 เม.ย.65 เงินกองทุนฯติดลบ 50,614 ล้านบาท แยกเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 19,332 ล้านบาท บัญชีแอลพีจีติดลบ 31,282 ล้านบาท ส่วนการกู้เงินจากสถาบันการเงินเพื่อเสริมสภาพคล่องแก่กองทุน ก้อนแรก 20,000 ล้านบาท จากกรอบวงเงินกู้ทั้งหมด 40,000 ล้านบาทนั้น ปรากฏว่า ในขณะนี้ยังไม่สามารถกู้ได้ ทางกระทรวงพลังงานและกระทรวงการคลังอยู่ในระหว่างหารือว่าหากกู้ไม่ได้ทางกองทุนฯจะดำเนินการอย่างไร
#ราคาน้ำมันโลก
#วิกฤตน้ำมัน