นายปิแอร์-โอลิวิเยร์ กูรินชาส หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ)เปิดเผยว่า ในรายงานภาวะเศรษฐกิจโลกปรับปรุงใหม่ ไอเอ็มเอฟ ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจโลกใน 2565 และ 2566 ลงมาที่ร้อยละ 3.6 เท่ากันทั้งสองปี ลดจากตัวเลขคาดการณ์เดิมในเดือนมกราคมที่ร้อยละ 4.4 ในปีนี้ และร้อยละ 3.8 ในปีหน้า ระบุว่า การคว่ำบาตรพลังงานรัสเซียและการสู้รบที่ยืดเยื้อในยูเครน การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและการระบาดระลอกใหม่ของโรคโควิด-19 อาจจะทำให้การเติบโตของเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง
ไอเอ็มเอฟ ระบุว่า การสู้รบในยูเครนก่อให้เกิดวิกฤติด้านมนุษยธรรมในยุโรปตะวันออก ชาวยูเครน 5 ล้านคนอพยพไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น โปแลนด์ ขณะเดียวกัน น้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติและเหล็กจากรัสเซียจะเข้าสู่ตลาดโลกน้อยลง ขณะที่ข้าวสาลีและข้าวโพดซึ่งผลิตทั้งจากรัสเซียและยูเครนจะเข้าสู่ตลาดโลกน้อยลงเช่นกัน จะส่งผลให้สินค้าต่างๆปรับขึ้นสูงมากในยุโรป ภูมิภาคคอเคซัสและเอเชียกลาง ตะวันออกกลาง แอฟริกาเหนือและในแถบทะเลทรายซาฮาราของทวีปแอฟริกา
ขณะที่ภาวะเงินเฟ้อจะสูงขึ้นในหลายประเทศ เนื่องจากความไม่สมดุลระหว่างปริมาณสินค้าที่มีอยู่ในตลาดกับความต้องการซื้อสินค้าของผู้บริโภค โดยสาเหตุจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เช่น การล็อกดาวน์นครเซี่ยงไฮ้ของจีนในขณะนี้กระทบต่อการขนส่งสินค้าทางเรือทั่วโลก ไอเอ็มเอฟคาดว่า ภาวะเงินเฟ้อในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วจะอยู่ที่ร้อยละ 5.7 ในปีนี้ ขณะที่ตลาดเกิดใหม่และกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา ภาวะเงินเฟ้อจะอยู่ที่ร้อยละ 8.7 ในปีนี้ ทั้งเตือนว่าราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้นอาจจะส่งผลให้เกิดเหตุวุ่นวายทางสังคมในบางประเทศ
#ไอเอ็มเอฟ
#ภาวะเศรษฐกิจโลก
#สถานการณ์ยูเครน